“โอนฟรี” SCB EASY โอนเงินต่างประเทศ ตลอด24 ชั่วโมง
ไทยพาณิชย์ ผนึกกำลัง Rippleโอนเงินต่างประเทศผ่าน SCB EASYสะดวกกว่า โดยไม่ต้องไปสาขา ทำได้ทุกที่ 24 ชั่วโมง รวดเร็วกว่า กับการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ถึงปลายทางในไม่กี่วินาที หรือไม่เกิน 3 วัน ขึ้นอยู่กับระบบปลายทางจับ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มทำธุรกิจระหว่างประเทศ กลุ่มผู้ปกครองที่ส่งเงินให้บุตรหลานที่ศึกษาต่อต่างประเทศ และกลุ่ม Family Support
ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดแคมเปญส่งเสริมการตลาด “โอนฟรี” ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าว่าลูกค้าจะหันมาใช้บริการโอนเงินต่างประเทศกับไทยพาณิชย์เพิ่มขึ้น ถึง 80,000 รายการ หรือคิดเป็นยอดธุรกรรมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2020
ธนาคาร ดันยุทธศาสตร์ SCB Global Payment ครบเครื่องเรื่องธุรกรรมสกุลเงินต่างประเทศในกลุ่มลูกค้าบุคคล ใช้จ่ายต่างประเทศแบบเต็มสูบ ผ่าน Global Payment Platform
นายอิทธิพันธ์ เจียกเจิม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Global Transaction Banking Services ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ธนาคารมีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการนำเอาเทคโนโลยีอันทันสมัยมาเป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในโลกยุคปัจจุบันได้อย่างตรงใจ ล่าสุดธนาคารจึงได้ร่วมกับ Ripple พันธมิตรระดับโลก ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการชำระเงินและการโอนเงินชั้นนำระดับโลก ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยี Ripple Blockchain เพื่อมอบประสบการณ์ในการทำธุรกรรมสกุลเงินต่างประเทศแบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้า (Seamless Global Payment Experience)
ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม ด้วยบริการใหม่ “โอนเงินต่างประเทศผ่าน SCB EASY” ซึ่งได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ออกจากการทดสอบแซนด์บ็อกซ์แล้ว อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่ทำธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มผู้ปกครองที่ส่งเงินให้บุตรหลานที่ศึกษาต่อในต่างประเทศ และกลุ่ม Family Support ให้สามารถโอนเงินไปต่างประเทศที่ต้องการแบบเรียลไทม์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา สะดวก ปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาอีกต่อไป และ ขยายขอบเขตการให้บริการโอนเงินข้ามประเทศครอบคลุมความต้องการใน 12 ประเทศหลัก ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สเปน เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ออสเตรีย เบลเยียม และโปรตุเกส ใน 4 สกุลหลัก ได้แก่ ดอลล่าร์สหรัฐฯ ปอนด์ ยูโร และดอลล่าร์สิงคโปร์
นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการจับเงินสด รวมถึงการเดินทางออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สถานการณ์ในประเทศไทยกำลังเข้มข้นขึ้นอีกด้วย.