บาทแข็งในรอบกว่า 1 เดือน

เงินบาทแข็งค่ากลับมา หลังสหรัฐฯ ลดท่าทีแข็งกร้าวต่อเม็กซิโกและแคนาดา
เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 34.32 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์(หลังสหรัฐฯเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน) ก่อนจะพลิกแข็งค่าหลุดแนว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เนื่องจากตลาดกลับมากังวลเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ อาจต้องเผชิญหากสงครามการค้ากับประเทศคู่ค้ายังคงดำเนินต่อไป
นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ในตลาดโลกและทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติซึ่งอยู่ในฝั่งไหลเข้าสุทธิในช่วงกลางสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
วันที่ 3-7 มี.ค. 2568 เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแข็งค่าในช่วงท้าย ๆ สัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียในภาพรวม และเงินหยวนที่ได้รับแรงหนุนจากสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทางการจีน ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯขยับอ่อนค่ารับข่าวที่สหรัฐฯลดความแข็งกร้าวในท่าทีที่มีต่อเม็กซิโกและแคนาดา
อย่างไรก็ดี กรอบการแข็งค่าของเงินบาทชะลอลงบางส่วนเนื่องจากตลาดยังคงรอติดตามการรายงานตัวเลขตลาดแรงงานของ สหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์
ในวันศุกร์ที่ 7 มี.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.64 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (28 ก.พ.)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,364.1 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิพันธบัตรไทยถึง 7,593 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อสุทธิพันธบัตรที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 10-14 มี.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 33.25-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค
ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นและมุมมองคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค (เบื้องต้น)สำหรับเดือนมี.ค. รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ของยูโรโซน และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ. ของจีนด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : จับตาต่างชาติดันเงินบาทแข็ง