ต่างชาติขายหุ้นไทย 6 สัปดาห์ติดต่อกัน
ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับปัจจัยบวกจากมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ก่อนจะย่อตัวลงในช่วงท้ายสัปดาห์ หุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ โดยมีปัจจัยหนุนมาจากความหวังเชิงบวกต่อมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน อาทิ การปรับเกณฑ์กองทุน TESG และมาตรการการกำกับดูแลพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นทุกอุตสาหกรรม นำโดย กลุ่มแบงก์ ไฟแนนซ์และพลังงาน
อย่างไรก็ดีหุ้นไทยย่อตัวลงในเวลาต่อมา หลังตอบรับประเด็นบวกข้างต้นไปพอสมควร โดยนักลงทุนกลับมาระมัดระวังในการลงทุนระหว่างรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี PCE ของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในช่วงท้ายสัปดาห์ รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศ
นอกจากนี้ แรงขายหุ้นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าและหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานจากความกังวลเรื่องแนวโน้มผลประกอบการมีส่วนกดดันหุ้นไทยในช่วงท้าย สัปดาห์ด้วยเช่นกัน อนึ่งนักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน
ในวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,300.96 จุด ลดลง 0.42% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่40,416.84 ล้านบาท ลดลง 14.48% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.81%มาปิดที่ระดับ 355.45 จุด
สัปดาห์ถัดไป (1-5 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,290 และ 1,280 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,310 และ 1,325 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของไทยถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นการเมืองในประเทศและทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและภาคบริการข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. บันทึกการประชุมเฟด รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน จีน และญี่ปุ่นตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : จับตาตลาดหุ้นไทยหลุด 1,300 จุดหรือไม่