ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 12-13 ก.พ.2566
2 ป ออกอีเว้นท์การเมือง
เรื่องที่ 1,800 วันจันทร์ที่ 13 ก.พ.66 รับเปิดสัปดาห์ใหม่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 5 ที่ จ. กาญจนบุรี นัดหมายบริเวรเกาะรัตนกาญจน์ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
การเปิดปราศรัยใน จ.กาญจนบุรี ถือเป็นเวทีแรกที่ พล.อ.ประวิตร จะนำเสนอนโยบายเพิ่มเติมของพรรค ทั้งนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง และนโยบายแก้ไขปัญหาที่ทำกิน ภายใต้แคมเปญ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน” “มีเรา มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน” หลังจากที่พรรคได้นำเสนอนโยบายเพิ่มเงินสวัสดิการประชารัฐ เป็น 700 บาท หรือที่เรียกกันว่า “ลุงป้อม 700”
สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ เขต 2 นายชูเกียรติ จีนาภัคดิ์ เขต 3 พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ เขต 4 นางสาวลำยอง ยิ้มใหญ่หลวง เขต 5 นายประเทศ บุญยงค์ และนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ
วันเดียวกัน “บิ๊กตู่” ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีกำหนดการปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจะเดินทางต่อไปยังวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ต.เวียง อ.ไชยา เพื่อสักการะบูชาพระบรมธาตุไชยา นมัสการพระครูพิทักษ์เจติยานุกูล เจ้าคณะอำเภอไชยา รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
เสร็จแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปที่ว่าการอำเภอไชยา เขตเทศบาลตำบลตลาดไชยา เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอไชยา และปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมเป็นประธานสักขีพยานการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ได้แก่ เขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าชนะ อำเภอไชยา และเขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าใสท้อนและป่าคลองโซง อำเภอชัยบุรี พร้อมพบปะกับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนด้วย
ช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานเปิดงานมหกรรมว่าวสุราษฎร์ธานี (Suratthani Kite Festival) ณ บริเวณหาดนายอำเภอ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะเดินทางกลับ กทม.
เรื่องที่ 1,801 นานน๊านจะได้ข่าวจากท่านรองพงษ์ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ครั้งนี้สิ่งที่ได้ยินก็น่าจะเป็นข่าวดี เพราะท่านรองบอกว่า กระทรวงพลังงานได้หารือร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดในเรื่องของการปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่า FT ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าของภาคเอกชน และจากการหารืออย่างใกล้ชิดพบว่าสถานการณ์ราคาไฟฟ้าจากนี้จะสามารถปรับลดลงได้
ท่านรองบอกว่า ค่า FT ในรอบเดือนม.ค. ถึงเม.ย.จะเป็น FT ที่สูงสุดแล้ว จากนั้นในรอบถัดไป เดือนพ.ค.ถึงส.ค. จะมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงานกับภาคเอกชนนั้นทำให้มองเห็นเป้าหมายในการปรับลดค่าไฟฟ้าลงได้ ซึ่งจะต้องอยู่ในระดับที่ไม่เป็นภาระกับทุกคนมากเกินไปโดยเฉพาะภาคครัวเรือน ในปีนี้ราคาจะยังทรงตัว
ท่านรองยังบอกด้วยว่า ภาคเอกชนซึ่งถือเป็นผู้ใช้ไฟรายใหญ่มีสัดส่วนประมาณ 70% ของผู้ใช้ไฟทั้งประเทศ ยังคงหาแนวทางในการปรับลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการผลิตสินค้ามากจนเกินไป และเชื่อว่าหลังจากนี้เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่สูงขึ้น จะมีผลทำให้การผลิตมีมากขึ้น ต้นทุนจะสามารถปรับลดลงได้ และมีโอกาสที่ค่า FT จะปรับลดลงต่ำกว่า 5 บาทต่อหน่วยได้ ถ้าเป็นไปตามที่รองพูดไม่ใช่แค่คำคุยโวขอไปที พี่น้องชาวไทยก็น่าจะโล่งใจในประเด็นเรื่องค่ครองชีพลงไปได้ ขอให้ทำได้แล้วกันนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 1,802 ใครที่ห่วงโรงงานยาสูบจะแข่งขันกับต่างชาติไม่ได้นั้น ขออนุญาตข้ามไปก่อน เพราะล่าสุด “ภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม” ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทยคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งได้ 3-4 เดือน ประกาศแล้วปีนี้ (2566) ยาสูบไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน และที่ผ่านมา ยาสูบก็ไม่เคยขาดทุน เพียงแต่รายได้ลดลงมากไปหน่อย จากเดิมมีรายได้นำส่งคลังปีละหลายหมื่นล้านบาท ติดอันดับ 1 ใน 5 ทุกๆ ปี กำไรสุทธิ ปีละ 8-9 พันล้านบาท แต่ล่าสุด ปีที่แล้ว!! นำส่งรายได้ให้คลัง หดเหลือเพียง 4 หมื่นไม่ถึง 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ องค์กรมีรายได้สุทธิเพียง 120 ล้านบาท
ในปีนี้ “ภูมิจิตต์” ลั่น!! จะนำส่งคลังมากขึ้น แต่จะถึง 5 หมื่นล้านบาทหรือไม่ ยังไม่อยากฝัน แต่ยังมีอีกเรื่องที่ต้องทำให้ได้คือ กำไรสุทธิของยาสูบปีนี้ พุ่งทะลุ 100% กำไรไม่ต่ำกว่า 240 ล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะมานั่งในช่วงที่พ้นจุดที่ต่ำสุดไปแล้ว ไอ้พวกที่โกงกิน กักตุนบุหรี่นะ!! หมดไปแล้ว
เวลาที่เหลือคือ พุ่งทะยานเพียงอย่างเดียว!! ปัดพร้อมกวาดองค์กรให้สะอาดปราศจากควันพิษเสียที ก็ดีนะ
โดยนพวัชร์