ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 18-19 ธ.ค.2565
ผลสำรวจของโพล 2 สำนัก ที่ออกมาในวันเดียวกัน คือ 18 ธ.ค. 65 สะท้อนความเบื่อหน่ายของประชาชนที่มีต่อผู้แทนและนักการเมืองได้เป็นอย่างดี
เรื่องที่ 1,653 “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ถามประชาชนถึงความพึงพอใจต่อการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรอบเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา พบว่า
31.98% ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ เพราะ การประชุมส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการทะเลาะกัน และ ส.ส. ที่เข้าร่วมประชุมมีจำนวนน้อย
30.46% ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ เพราะ มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน นำเสนอปัญหาและความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่เพื่อให้รัฐบาลช่วยเหลือ
25.96% ระบุว่า ไม่พอใจเลย เพราะ สภาล่มบ่อยครั้ง และการทำงานยังไม่มีประสิทธิภาพ
9.77% ระบุว่า พอใจมาก เพราะ ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน และการพิจารณากฎหมายสำคัญ ๆ สำเร็จลุล่วง และ 1.83% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ถามประชาชนว่า นักการเมืองไทย วันนี้ กับ 5 ปี ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
ผลการสำรวจประชาชนตอบว่า ไม่เปลี่ยนเแปลงหรือเหมือนเดิม มากถึง 47.02% รองลงมา มองว่า แย่ลง คิดเป็น 44.68% และที่มองว่าดีขึ้น มีเพียง 8.30%
ผลสำรวจของ 2 สถาบันการศึกษานี้ เป็นเครื่องเตือนนักการเมืองว่า ประชาชนเริ่มเอือมระอากันแล้ว โปรดอย่าทำให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจไปมากกว่านี้เลย
เรื่องที่ 1,654 คงต้องยกตำแหน่ง “บุคคลที่น่าเห็นใจที่สุดแห่งปี 2022” ให้ไปเลยสำหรับ พี่เต้ย “คมกฤช ตันตระวาณิชย์” เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ซึ่งต้องบอกเลยว่าคงกระอักกระอ่วมไม่น้อยกับการต้องรับบทบาทเป็นผู้ประกาศอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที (FT) ให้ประชาชนได้รับรู้ โดยใน 2 งวดหลัง คือ งวด ก.ย.-ธ.ค. 65 และล่าสุดกับงวด ม.ค.-เม.ย. 66 ต่างมีประเด็นเกิดขึ้นไม่ใช่น้อย
ตอนงวด ก.ย.-ธ.ค. 65 กว่าจะประกาศออกมาได้ก็ต้องทำโพลสำรวจขอความคิดเห็นจากภาคประชาชนก่อนที่จะประกาศจริง และต้องปรับขึ้นเป็น 4.72 บาทต่อหน่วย เพราะก่อนหน้านั้นมีกระแสข่าวว่าจะต้องปรับขึ้นในอัตราสูงมากกว่าราคาดังกล่าว ขณะที่งวดล่าสุด ม.ค.-เม.ย.66 ก่อนที่จะประกาศออกมาก็ต้องไปทำสมมติฐานกันหลายกรณี เล่นเอาท่านเลขาไม่กล้าเดินตลาด เพราะมักจะถูกถามไถ่เสมอว่าทำไมต้องขึ้นค่าไฟ ก่อนที่ล่าสุดจะประกาศเก็บบ้านพักอาศัยราคาเดิม 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนภาคธุรกิจจะเก็บ 5.69 บาทต่อหน่วย
ซึ่งทันทีที่ประกาศคำถามมากมายประดังเข้าใส่ท่านเลขา มิได้หยุดหย่อน เพราะเอกชนต่างก็ไม่พอใจกับการประกาศครั้งนี้ เนื่องจากมีผลทำให้ต้นทุนของการผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้น จนต้องออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนใหม่ พร้อมกันนี้ท่านเลขาเองก็ต้องพยายามหลบสื่อมวลชนไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะต้องตอบคำถามอย่างไรให้ตรงใจผู้ประกอบการ เอาล่ะยังไงก็ขอเป็นกำลังให้ท่านเลขาปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งนะขอรับ ถึงเวลาที่ต้องชี้แจงก็ขอให้มีข้อมูลดีๆมาอธิบายให้ประชาชน และผู้ประกอบการได้เข้าใจนะครับเจ้านาย
เรื่องที่ 1,655 ยังต้องลุ้นกันต่อไป สำหรับตำแหน่งผู้จัดการ ธ.ก.ส.คนใหม่มาแทน “พี่หมู-ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์” ที่กำลังเกษียณในเดือนมี.ค.นี้ ล่าสุดคณะกรรมการธนาคาร (บอร์ด) แต่งตั้งประธานสรรหาคนใหม่ “พี่อ้วน-ชาญวิทย์ นาคบุรี” ผู้ตรวจราชการจากกระทรวงการคลังที่ย้ายข้ามห้วยมาจาก สคร. งานนี้ ผู้สมัครทั้ง 5 คน คงเหนื่อยกันหน่อย เพราะ “พี่อ้วน” ประกาศก้องสรรหาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธ.ค.นี้ เหลือเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ก็สิ้นปี2565 เข้าสู่ปีใหม่แล้ว
ดังนั้น บทบาทของผู้สมัครทั้ง 5 คน ใครจะโดดเด่นกว่าใคร และใครจะได้รับการคัดเลือกนั้น ล่าสุดให้น้ำหนักเพียง 2 คน ไม่มีใครมาเป็นม้ามืดคือ 1.ฉัตรชัย ศิริไล เอ็มดีจาก ธอส. เต็ง 2. “เสกสรรค์ จันทร์ขวาง” รองผู้จัดการ ธ.ก.ส.ลูกหม้อของแท้ 100% นั่งทำงานแบงก์รัฐแห่งเดียวนานเกือบ 30 ปี ลงชิงชัยอย่ากระพริบตา
ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร “นพวัชร์” ทักไปหลายครั้งแล้วว่า ภาษีดีที่สุดคือ “ฉัตรชัย” เก่งทั้งงานและพีอาร์ ขนาด “ขุนคลัง-อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” แม้ไม่บอกใบ้ แต่ถามว่า มอบนโยบายอะไรให้เอ็มดีคนใหม่ ตอบได้เพียงคำเดียวคือ “แก้หนี้เอ็นพีแอล” พร้อมพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้รองรับปัจจุบันและอนาคต แถมมีแอพฯ ดีๆ ให้เกษตรกรเข้าสู่สังคมโซเชียลมีเดียได้เท่านี้ ก็พอใจแล้วครับ!!
โดยนพวัชร์