ผู้ต้องหาเวียดนามคดีคิมจองนัมใกล้ถูกปล่อยตัว
กัวลาลัมเปอร์ – หญิงชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือจะถูกปล่อยตัวในเดือนพ..ค. หลังจากยอมรับว่ากระทำความผิดและรับโทษสถานเบา อ้างอิงจากข้อมูลของทนายความของเธอ
Doan Thi Huong ผู้ต้องหาชาวเวียดนามขานรับโทษจำคุกที่ยุติธรรมด้วยความยินดี ผู้พิพากษาอ่านคำตัดสินในศาลมาเลเซีย ซึ่งเธอถูกไต่สวนในคดีฆาตกรรมคิมจองนัมด้วยยาพิษทำลายประสาท
โดย Huong ถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ซึ่งนับตั้งแต่เธอถูกจับกุมตัวในเดือนก.พ.60 แต่ทีมกฎหมายของเธอระบุว่า เนื่องจากได้รับการลดหย่อนโทษ ทำให้เธอจะถูกปล่อยตัวเร็วขึ้นในเดือน พ.ค.นี้
“ เธอจะได้กลับบ้าน ในสัปดาห์แรกของเดือนหน้า” Hisyam Teh Poh Teik ทนายความของเธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวในศาลสูง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์คำตัดสินนี้มีขึ้นหลังจากในเดือนที่แล้ว ทางศาลปฏิเสธคำร้องที่ขอให้ยกฟ้องเธอในข้อหาฆาต
กรรม ขณะที่อัยการสูงสุดยอมถอนฟ้องข้อหาฆาตกรรมกับผู้ต้องหาชาวอินโดนีเซียที่ชื่อ Siti Aisyah และปล่อยตัวเธอกลับประเทศบ้านเกิด
ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสองคนปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำฆาตกรรมคิมจองนัม โดยพวกเธอให้การว่า พวกเธอถูกหลอกโดยสายลับเกาหลีเหนือให้ทำการลอบสังหารเขาที่กลายเป็นคดีช็อกโลก เพราะพวกเธอคิดว่าเป็นเพียงการแกล้งกันในรายการเรียลลิตี้โชว์เท่านั้น
Huong มีความผิดในข้อหาใหม่ที่ระบุว่า เธอ “จงใจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ” กับคิมด้วยการใช้ “วิธีการอันตราย” โดยเป็นการโจมตีด้วย VX ( สารประกอบอาวุธเคมีซึ่งมีพิษทำลายประสาท ) ที่ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นข้อหาที่มาแทนข้อหาเดิมคือการกระทำฆาตกรรม ที่มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต
โดยเธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ ฉันมีความสุขมาก นี่เป็นการตัดสินที่ยุติธรรม”
“ นี่เป็นการพิพากษาที่ยุติธรรม ฉันขอขอบคุณรัฐบาลมาเลเซีย และรัฐบาลเวียดนาม”
เมื่อเธอถูกปล่อยตัว หมายความว่าจะไม่มีใครเป็นผู้ต้องหาในข้อหาฆาตกรรมคิมจองนัม ที่เกิดขึ้นในเดือนก.พ.60 โดยคิมจองนัม เคยได้รับการวางตัวให้เป็นทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ต่อมาเขาไม่ได้เป็นลูกคนโปรดของบิดา
ทั้งนี้ เกาหลีใต้กล่าวหาเกาหลีเหนือว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งทางเกาหลีเหนือได้ออกมาปฏิเสธ
ทีมทนายความของผู้ต้องหาทั้งสองแก้ต่างว่าพวกเธอเป็นเพียงแพะรับบาปเท่านั้น และระบุว่า สายลับเกาหลีเหนือ 4 คนซึ่งเป็นผู้วางแผนได้หลบหนีออกจากมาเลเซียทันทีหลังการลอบสังหาร
เมื่อเดือนมี.ค.เกิดประเด็นดราม่าขึ้นเมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ปล่อยตัว Siti ขณะที่ปฏิเสธไม่ให้ Huong ได้ประกันตัว ทำให้เธอทรุดหมดแรงอยู่ในคอกผู้ต้องหาและต้องมีตำรวจหญิงสองนายมาประคองพาเธอกลับเรือนจำ ทำให้เวียดนามไม่พอใจคำตัดสินของศาลและกดดันมาเลเซียให้ปล่อยตัว Huong โดยเร็ว
ทั้งนี้ คดีฆาตกรรมจะมีบทลงโทษประหารชีวิตด้วยการการแขวนคอในมาเลเซีย แม้รัฐบาลจะให้คำมั่นว่าจะยกเลิกโทษประหารชีวิตก็ตาม แต่ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าจะกลับมาใช้โทษประหารชีวิตอีก.