เบร็กซิทกระทบถึงกัมพูชา
ผลกระทบจากเบร็กซิทไม่เพียงมีกับสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นภัยคุกคามกับหลายประเทศกำลังพัฒนาที่พึ่งพาการค้ากับสหราชอาณาจักรอีกด้วย จากผลการศึกษาล่าสุด
ในบรรดากลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุดในโลก กัมพูชาจะได้รับผลกระทบจากเบร็กซิทมากที่สุด อ้างอิงจากการศึกษาโดย German Development Institute (DIE)
การออกจากอียูของสหราชอาณาจักรและสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง และข้อตกลงทางการค้า อาจทำให้ 1.7 ล้านคนจมดิ่งลงในความยากจน รายงานระบุ
“ ไม่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายของการเจรจาจะเป็นอย่างไร เบร็กซิทก็ได้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบการค้าของจักรวรรดิอังกฤษที่ก่อให้เกิดความกังวลกับประเทศที่ 3” รายงานระบุ “ สหราชอาณาจักรต้องมีการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจกับหลายประเทศที่อ่อนแอ”
ในฐานะสมาชิกของอียู สหราชอาณาจักรมีส่วนร่วมในโครงการ Everything but Arms (EBA) รวมทั้ง European Generalized Scheme of Preferences (GSP) โดยทั้งสองโครงการเป็นการยกเลิกการเก็บภาษี หรือลดภาษีให้ต่ำลงสำหรับสินค้าที่ส่งออกจากประเทศกำลังพัฒนาไปอียู EBA เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับ 49 ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดในโลก โดยลดภาษีถึง 99% กับสินค้าที่ส่งออกไปอียู
ปัจจุบัน กัมพูชาส่งออกสินค้า 7.7% ไปที่สหราชอาณาจักร ทำให้กัมพูชาได้รับผลกระทบจากเบร็กซิทอย่างมาก หากสหราชอาณาจักรออกจากอียูและกลับไปอยู่ภายใต้ข้อบังคับขององค์การการค้าโลก (WTO) ภาษีที่เพิ่มขึ้นและอุปสรรคทางการค้าอื่นๆจะส่งผลให้ตัวเลข GDP ของกัมพูชาร่วงลงถึง1.08% และการบริโภคในครัวเรือนลดลง 1.4%
โดยรายงานชี้ว่าการส่งออกอาหารและอุตสาหกรรมเสื้อผ้าทั่วประเทศสมาชิก EBA จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาษีใหม่
Kristen Hopewell ผู้บรรยายอาวุโสด้านเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศที่ University of Edinburgh ระบุว่า หากไม่มีการยกเว้นทางการค้าจากอียู ประเทศอย่างกัมพูชา จะถูกบีบออกจากตลาด “ มีความเสี่ยงที่ผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาจะกลายเป็นความเสียหายที่คู่ขนานไปกับกระบวนการเบร็กซิท”
ความยากจนขั้นสุดจะเพิ่มขึ้นในประเทศ EBA หลังเบร็กซิท โดยกัมพูชาและเอธิโอเปียจะได้รับผลกระทบมากที่สุด DIE ระบุ ในกัมพูชาสัดส่วนของประชากรที่ยากจนอาจเพิ่มขึ้นถึง 1.02% และเอธิโอเปียเพิ่มถึง 1.12%
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าความจริงที่จะเกิดขึ้นในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด อาจแย่กว่าที่รายงานทำนาย.