ส่งออกสิงคโปร์ดิ่งสุดในรอบ 2 ปี
ยอดส่งออกสิงคโปร์ลดฮวบลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนธ.ค. เนื่องจากยอดจัดส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเวชภัณฑ์ดิ่งเหว อ้างอิงจากข้อมูลทางการเมื่อวันที่ 17 ม.ค.
เป็นตัวเลขที่ลดลงเกินคาด แม้การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อลดความตึงเครียดลง นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่า ความขัดแย้งจะส่งผลกระทบกับสิงคโปร์ที่พึ่งพาการค้าในอีกหลายเดือนต่อจากนี้
ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันในเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ชะลอตัวลงอีกจากตัวเลขที่ลดลง 2.8% ในเดือนพ.ย. อ้างอิงจากข้อมูลของหน่วยงานส่งเสริมการค้า Enterprise Singapore
ถือเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 เป็นต้นมา เมื่อยอดส่งออกดิ่งฮวบลง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
“ ข้อมูลนี้ชี้ว่า การเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯกับจีนกลายเป็นกลอุบาย เป็นไปตามกรอบข้อมูลการค้าที่น่าผิดหวังของจีน มีแนวโน้มว่ายอดส่งออกจะร่วงต่อเนื่องในไตรมาสแรก ” เซลีนา หลิง หัวหน้าฝ่ายวิจัยการคลังและกลุยุทธ์ที่ OCBC กล่าวกับสื่อรอยเตอร์
เมื่อต้นเดือนนี้ จีนประกาศว่ายอดส่งออกเดือนธ.ค. 2561 ร่วงลงมาถึง 4.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นเดือนที่ลดฮวบลงครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปี ชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจของจีนที่อ่อนแรงลง
เมื่อเทียบข้อมูลกันเดือนต่อเดือน ยอดส่งออกของสิงคโปร์หดตัวลง 5.7% ในเดือนธ.ค.หลังปรับขึ้นเป็น 4.3% ในเดือนพ.ย.
โดยตัวเลขส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนธ.ค.ร่วงลง 11.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากฟื้นตัวขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดส่งออกเวชภัณฑ์ในเดือนธ.ค.ดิ่งฮวบลงถึง 26.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากเติบโต 7.3% ในเดือนพ.ย.
เมื่อต้นเดือนนี้ สิงคโปร์ประกาศว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาส 4 หลังจากภาคการผลิตหดตัวและเสริมว่าหากกรณีพิพาททางการค้าของจีน – สหรัฐฯยังลากยาว จะฉุดตัวเลขการเติบโตของสิงคโปร์ในปี 2562
ING ระบุในรายงานว่า เป็นเรื่องยากที่จะเหมาว่าการส่งออกที่ลดลงของสิงคโปร์เกิดจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์เพียงปัจจัยเดียว เช่น สงครามการค้า เพราะตัวเลขส่งออกไปจีนและสหรัฐฯยังเติบโต โดยยอดส่งออกเดือนธ.ค.ไปจีนโต 15.4% และสหรัฐฯโต 31.1% แต่ยอดส่งออกทั่วเอเชียเห็นได้ชัดว่าลดลงและส่งผลเชิงลบกับ GDP.