GPSC – RACTH ชิงร่วมทุน โรงไฟฟ้านวนคร
นวนคร เล็งร่วมทุน GPSC- RACTH ขยายโรงไฟฟ้านวนคร เฟส 3 พร้อม เจรจา ซีเมนส์ -กลุ่มซูมิโตโม ทำโครงการสมาร์ทกริด หลังแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าในนิคมเพิ่มมากขึ้น
นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากับพาร์ตเนอร์ทั้งในส่วนบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RACTH เพื่อร่วมลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านวนคร เฟสที่ 3 ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 60 เมกะวัตต์ หลังแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เติบโตค่อนข้างมาก โดยจากการสำรวจข้อมูลช่วงที่ผ่านมาพบว่าในบางช่วงมีความต้องใช้ไฟฟ้ามากกว่า 500 เมกะวัตต์ เพื่อเสริมศักยภาพการผลิตไฟฟ้าของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
ปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้านวนครเฟสที่ 1 ขนาดกำลังผลิตราว 125 เมกะวัตต์ ซึ่งได้มีการเปิดผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วในช่วงที่ผ่านมาโดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโครงการเฟสที่ 1 นั้นจะมีการจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณ 90 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 35 เมกะวัตต์นั้นขายให้ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร (ปทุมธานี) ซึ่งในส่วนนี้ปัจจุบันมีความต้องการ (ดีมานด์) ไฟฟ้าเต็มประสิทธิภาพแล้ว
ขณะเดียวกันทาง NNCL อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า นวนคร เฟสที่ 2 ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าราว 60 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ทั้ง GPSC และ RATCH โดยมีทางกลุ่ม NNCL ถือหุ้นในสัดส่วนราว 29.99% ในโครงการดังกล่าว ขณะนี้การก่อสร้างถือว่าคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว โดยน่าจะสามารถเปิดผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้คงทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าและส่วนแบ่งกำไรของ NNCL ปรับเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นยังได้เจรจากับซีเมนส์ และกลุ่มซูมิโตโม เพื่อทำโครงการสมาร์ทกริดภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของบริษัท ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ทดลองทำโครงการโซลาร์ ลอยน้ำ และโซลาร์ รูฟท็อป กำลังผลิตรวม 1 เมกะวัตต์ รวมทั้งมองโอกาสลงทุนขยายกำลังผลิตไฟฟ้าในส่วนของรูฟท็อปในอนาคตเพิ่มเติมด้วย.