มติ กบง.เก็บเงิน 11,000 ลบ.เข้ากองทุนน้ำมัน
กบง. มีมติ เพิ่มเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน กลุ่มน้ำมันเบนซินและดีเซล อีก 0.50 บาทต่อลิตร เพื่อชดเชยเงินที่นำไปอุดหนุนราคาน้ำมันให้ครบ 11,000 ล้านบาท หลังราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน แจ้งว่า กบง. มีมติ ให้ปรับเพิ่มการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯอีก 0.50 บาทต่อลิตร โดยจะทำให้อัตราเงินกองทุนน้ำมันเฉลี่ยของกลุ่มน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์อยู่ที่ 1.93 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 0.70 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับประมาณ 100 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือนในการสะสมเงินให้ครบ 11,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพเงินกองทุนน้ำมันฯ ให้เข้มแข็งรองรับความผันผวนของตลาดน้ำมันที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
หลังจากราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2561 ที่ระดับราคา 84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จนถึงปัจจุบัน 66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 18 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยลดลงอย่างมากตั้งแต่วันที่13 พ.ย.ผ่านมาประมาณ 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้กำกับทั้งอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ และค่าการตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 E10 ลดลง 2.80 บาทต่อลิตร โดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 28.85 บาทต่อลิตรและราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลง 0.60 บาทต่อลิตร โดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 29.29 บาทต่อลิตร
ขณะเดียวกันได้บริหารจัดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ซึ่งได้มีการใช้ไปแล้วเมื่อตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และก๊าซ LPG ถังละ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ไป 11,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี จากเดิมที่มี 34,500 ล้านบาท คงเหลือ ปัจจุบัน 23,500 ล้านบาท.