“PRIME” ลุย ขยายโซลาร์ฟาร์ม เอเชีย
PRIME ลุยขยาย โซลาฟาร์มขนาดใหญ่ ทั่วเอเชีย อาทิ กัมพูชา ไต้หวัน เวียดนาม ลาว และ มาเลเซีย มั่นใจชนะประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์
นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME เปิดเผยว่าผลประกอบการในปี 2562 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 658 ล้านบาท เทียบกับรายได้รวม 747 ล้านบาทในงวดปี 2561 โดยปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 265 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ จากผลขาดทุนสุทธิ 504 ล้านบาทในปี 2561(ซึ่งเดิมเป็นธุรกิจกลุ่มอาหารของผู้ถือหุ้นกลุ่มอื่น) โดยปัจจุบัน PRIME มีอัตรากำไรสุทธิในปี 2562 สูงถึง 40% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้าและมีอัตราหนี้สิน ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) เพียง 0.88 เท่า โดยไม่มีหนี้สินในระดับองค์กรจึงสามารถ ที่จะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายกิจการได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ บริษัท ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า จาก ปัจจุบัน 287 เมกะวัตต์ เป็น 1,000 เมกะวัตต์ภายใน 4 ปี โดยเน้นการลงทุนประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและความต้องการพลังงานไฟฟ้าจำนวนมากอาทิ กัมพูชา ไต้หวัน เวียดนาม ลาว และ มาเลเซีย
อย่างไรก็ดีในปี 2563-2565 บริษัทฯ วางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ “Go Asia” มุ่งลงทุนโซลาฟาร์มในทวีปเอเชียและ “Go Local” มุ่งพัฒนาโรงไฟฟ้าในประเทศ โดยเตรียมเข้าประมูลในโครงการ โรงไฟฟ้าชุมชนของกระทรวงพลังงาน ขนาดกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ และมั่นใจว่าจะเป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูล โดยอาศัยประสบการณ์ความสำเร็จที่บริษัทฯ เคยชนะการประมูลโครงการโซลาฟาร์มสหกรณ์ เฟส 1 และ 2 รวม 33 เมะวัตต์
ล่าสุด บริษัทฯเตรียมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ หรือ Solar Farm ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ หลังจากชนะการประมูล ระดับนานาชาติ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมูล จากทั่วโลกกว่า 100 บริษัท โดยโครงการนี้มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ ซึ่งจะก่อสร้าง ที่จังหวัดกัมปงชนัง และด้วยประเทศกัมพูชา เป็น 1 ในประเทศกำลังพัฒนา ที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจ และภาคอุตสาหกรรม และมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในปริมาณมาก ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะมีโอกาสที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติม ในประเทศกัมพูชา