คลังพร้อมลงเข็มบ้านประชารัฐ
ธนารักษ์ เร่งผุดโครงการบ้านประชารัฐ มั่นใจเดือนก.พ.นี้ ได้ข้อสรุป พร้อมผุดโครงการแรกภายในปีนี้ เผยเงื่อนไขรูปแบบใหม่ มีสัญญาเช่า จากเดิมเช่าระยะยาว 30 ปีบนที่ราชพัสุด และซื้อขาดจากภาคเอกชน
“ต้นแบบของบ้านประชารัฐ ในรูปแบบใหม่จะมีให้เช่าเป็นรายเดือน เพื่อให้คนที่มีรายได้น้อยสามารถเช่าอยู่อาศัยได้” นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์
ทั้งนี้จากการศึกษาดูงานของกรมธนารักษ์ที่ประเทศฮ่องกง และจีน พบว่า คนจนของประเทศมีที่อาศัยอย่างถาวร แต่อยู่ในลักษณะของเช่าเพื่อพักอาศัย และเมื่อคนจนเหล่านี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นก็ต้องออกจากบ้านของรัฐบาลไป ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดี และสอดคล้องกับความเป็นจริง
ยกตัวอย่าง แฟลตดินแดงที่ กคช. ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะผู้เช่ารายแรกได้ขายสิทธ์การเช่าไปยังคนอื่น และเมื่อคนที่มาอยู่ใหม่แม้จะมีรายได้สูงขึ้นก็ไม่ยอมย้ายออกไป เพราะราคาซื้อขายสิทธิ์แพงมาก และก็ยังไม่ยากเสียสิทธิ์หากย้ายออกไปแล้ว ไม่ได้กลับมาใหม่ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้รูปแบบของบ้านโครงการประชารัฐ มีอยู่ 2 ลักษณะคือ 1. เช่าระยะยาว 30 ปี บนที่ดินราชพัสดุของรัฐ และ 2. ซื้อขาดจากบริษัทเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการ แต่ขณะนี้เรายังไม่สามารถตกลงเรื่องของราคาบ้านได้ โดยเอกชนคำนวณบ้านในโครงการอยู่ที่ 700,000 บาท แต่เราต้องราคาเพียง 500,000 บาท
นอกจากนี้เรื่องความสามารถในการชำระหนี้ ก็ยังมีความแตกต่างกัน เช่น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยากให้คนที่มีรายได้น้อยไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน เข้าร่วมโครงการ ขณะที่การเคหะแห่งชาติ (กดช.) ระบุว่า ความสามารถในการชำระหนี้ ผู้กู้ควรมีรายได้อยู่ที่ 22,000 บาทต่อเดือน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประเมินว่า ควรจะมีรายได้ 24,000 บาท
“ราคาบ้านกับความสามารถในการชำระหนี้ จะต้องสอดคล้องกัน หากราคาบ้านแพงความสามารถในการชำระหนี้ในแต่ละเดือนก็ต้องมากขึ้นด้วย ซึ่งประเด็นนี้ เราจะสรุปกับ สศค.ให้ชัดเจน”
สำหรับขนาดของที่อยู่อาศัยของโครงการบ้านประชารัฐจะมี 2 ลักษณะคือ คอนโดมิเนียม ขนาด 22 ตารางเมตร และบ้านเรือนแถวขนาด 70 ตารางเมตร โดยคอนโดมิเนียนจะอยู่ในเขตเมือง
ส่วนบ้านเรือนแถวจะอยู่ในเขตต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้ กรมธนารักษ์ได้เตรียมที่ราชพัสดุเอาทั้งหมด 6 แปลงคือ 1. ที่ดินบนถนนพหโยธิน ตรงข้ามวันไผ่ตัน 2. ที่ดินโรงกษาปณ์เก่า บริเวณถนนประดิพันธ์ 3. ถนนช้างคลาน จังหวัดเชียง ใหม่ 4. อำเภอชะอำ เพชรบุรี 5. จังหวัดเชียงรายมีทั้งหมด 2 แปลง
โดยพื้นที่แรกที่จะสามารถผุดโครงการได้ก่อนคือ ที่ราชพัสดุต้องวัดไผ่ แต่ติดปัญหาเรื่องพื้นที่ เพราะใกล้กับสะพาน ทำให้ไม่สามารถสร้างคอนโดมิเนียมสูงได้ แต่กรมธนารักษ์ก็จะหาวิธีการอื่นเช่น บ้านข้าราชการซึ่งสามารถทำได้โดยไม่ต้องอิงกับกฎหมายผังเมือง เช่นกับที่ราชพัสดุที่จังหวัดเชียงใหม่ ขนาด 9 ไร่ สามารถทำคอนโนมิเมียนไม่ 500 ยูนิต ก็จะให้ข้าราชการผู้น้อยเช่าเช่นเดียวกัน