ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 5-6 ส.ค.2564
“อยากคุยโม้ เรื่อง “เศรษฐกิจ” กับสำนักวิชาการดังๆ เช่น กกร. ส.อ.ท. กระทรวงการคลังรวมถึงเหล่าบรรดานักวิเคราะห์จากสถาบันการเงิน ทั้งในและต่างประเทศบ้าง แต่วานนี้ (4ส.ค.) ตอนบ่ายสอง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม สรุปคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อไปเหมือนเดิม อย่างไม่เอกฉันท์ โดยมติ 4 ต่อ 2 คือ 4 คน คงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้เท่าเดิม แต่อีก 2 คนเสนอลดอัตราดอกเบี้ยลงนั้น ลางหายนะเศรษฐกิจไทย “ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง” ไม่ใช่อีกต่อไป แต่จะเปลี่ยน “ปีนี้เผาจริง ปีหน้าเก็บกระดูก” หนักขนาดนั้น เชียวนะครับ”
การใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเศรษฐกิจ มี 3 แนวทาง คือ 1.ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ 2.คงอัตราดอกเบี้ย เพื่อประเมินสถานการณ์และทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ ต่อไป และ3.ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
การที่ กนง.คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะขยายตัว 0.7% กระทรวงการคลัง 1.3% กกร.ลบ 1.5-0% ขณะที่สำนักวิเคราะห์จากธนาคารพาณิชย์หลายแห่งต่างก็ปรับลดลงคงเหลือเพียงแค่ 1% เศษนั้นเอง ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวจากระดับติดลบเมื่อปีที่แล้ว ถึง 6.1% ถดถอยมากสุดในรอบ 22 ปี จึงเท่ากับว่า เศรษฐกิจปีนี้ แม้จะไม่ติดลบ แต่ยังไม่ดีเท่ากับปี2562 และยังต้องนับถดถอยมากที่สุดในรอบ 21 ปี!! ดังนั้น เศรษฐกิจที่ถดถอยถึง 2 ปี ปีที่แล้ว เผาหลอก ปีนี้ สิ!! เผาจริง
เบื่อเรื่องเศรษฐกิจ มาดูภาพสวยๆ เรื่องที่ 36 ขอโชว์ภาพของอาคารสถาบันพัฒนาการจัดเก็บภาษีอากร กรมสรรพากร ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งล่าสุดกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรได้มอบพื้นที่ดังกล่าวให้หน่วยงานสาธารณสุข จ.นนทบุรี เพื่อใช้จัดตั้งศูนย์พักคอย Community Isolation รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีอาการไม่รุนแรง ซึ่งเดิมอาคารหลังนี้ เคยเป็นศูนย์ฝึกอบรมของกรมสรรพสามิตมาก่อน แต่ก็สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้งาน จนถึงยุค “ประสงค์ พูนธเนศ” อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในสมัยเป็นที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ขอพื้นที่จากกรมธนารักษ์มาพัฒนาเป็นศูนย์ฝึกอบรมภายในชื่อ “สถาบันพัฒนาการจัดเก็บภาษีอากร” ที่ดินและอาคารสวยๆ หลังนี้ ตั้งติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่ำลือว่า “ปลาชุกชุม” และยังลือต่อว่า “ผีดุ” อีกด้วย
ส่วนความจริงเป็นเช่นไร คงตอบแทน คนที่ภาคภูมิอาคารหลังนี้ได้ดีที่สุด ไม่เท่ากับคนชื่อ “ประสงค์” อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และเจ้าของคำพูด “ผมเอาแถวที่ 1 และ2 อยู่ ส่วนแถวอื่นๆ ขึ้นอยู่กับอธิบดีคนใหม่” กรมสรรพากรจึงเก็บภาษีได้เกินเป้าทุกปีนับจากนั้นมา ฉับพลันปีงบประมาณ2564 “ปลัดประสงค์” เกษียณ กรมสรรพากรก็จัดเก็บรายได้หลุดทันที สาเหตุหลักมาจากโควิดก็จริง แต่เหตุผลรองลงไป ต้องไปถามคนสรรพากรแถว 3 แถว 4 ว่า ท่านอธิบดีกรมสรรพากรเอาอยู่หรือไม่
เรื่องที่ 37 ต่อยาวๆ เรื่องของกรมสรรพากร กำลังหัวเลี้ยวหัวต่อบรรดา “บิ๊ก’ขรก.” ในฤดูแต่งตั้งโยกย้าย สภาพการณ์ “ฝุ่นตลบ” คงมีให้เห็นในหลายกระทรวงที่มีผู้บริหารเกษียณฯ ณ สิ้นเดือนก.ย.นี้ แต่จะเกี่ยวกันหรือไม่ เมื่อ “อธิบดีเอก” เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ สร้างบรรยากาศให้บรรดา “บิ๊ก’คลัง” ตั้งแต่ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” “สันติ พร้อมพัฒน์” ปลัดกระทรวงการคลัง “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานพักคอยผู้ป่วยโควิดฯ เมืองนนท์ ซึ่งก็คืออาคารสถาบันพัฒนาการจัดเก็บภาษีอากร นั่นเอง
ธอส.ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ธนาคารสำหรับประชาชนที่ต้องการมีบ้าน เรื่องที่ 38 ขอปรบมือให้เลย ธอส. ที่มีประธานบอร์ด ชื่อ “ยุทธนา หยิมการุณ” และมี “ฉัตรชัย ศิริไล” เป็นเอ็มดี. คลอดโครงการ My Hero ช่วยเหลือด้านการเงินแก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกกลุ่มที่เคยมี เหลือเพียง 1% ในช่วง 4 ด. (ก.ย.- ธ.ค.64) นัยว่าช่วยลดภาระรายจ่ายให้ “นักรบชุดขาว” แนวหน้าสงครามโควิดฯ แต่จะดีมากกว่านี้…ถ้าครบ 4 เดือน แล้วขยายโครงการต่อไปเรื่อยๆ ดีที่สุด เพราะนักรบชุดขาว กินและนอนที่โรงพยาบาลยาวเลยครับ บ้านที่ผ่อนไว้คงอีกนานกว่าได้กลับ
เรื่องที่ 39 บางจาก อัดฉีด 2 ล้านบาท “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี กำปั้นหญิงขวัญใจชาวไทย คว้าเหรียญทองแดงกลับประเทศไทยจากการแข่งขันมวยสากลรุ่นไลต์เวต 60 กก. ในมหกรรมโอลิมปิก 2020
เรื่องที่ 40 รถไฟฟ้าสายสีแดง แบรนด์ ญี่ปุ่น หลังจากได้ฤกษ์เปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการจริงเมื่อ 2 ส.ค.64 ที่ผ่านมา นอกจากชาวไทยจะยินดีกับ 14 ปีที่รอคอย ชาวญี่ปุ่นก็แห่ชื่นชม รถไฟประเทศญี่ปุ่นได้มาวิ่งในประเทศไทย …
เรื่องที่ 41 ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยโรงงานไฟไหม้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงเชิญชวนผู้ประกอบกิจการโรงงานทั่วประเทศ ฝึกอบรมออนไลน์ “ ป้องกันอุบัติภัยจากสารเคมี และเตรียมความพร้อมในการระงับเหตุ” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมการฝึกอบรมได้ที่ www.diw.go.th/regis_safety/ ภายในวันที่ 9 ส.ค.นี้
เรื่องที่ 42 กระแสตอบรับดี แคมเปญส่วนลด มูลค่า 500 บาท ซื้อเตาไฟฟ้าเบอร์ 5 ของ กฟผ.เพิ่มจะหมดเขตรับสิทธิส่วนลดเมื่อเดือนก.ค.ปรากฏว่า ขายเตาไฟฟ้าได้ถึง 10,000 เครื่อง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้กว่า 20 ล้านบาท ออกแคมเปญบ่อยๆถ้าจะดี เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับครัวเรือน
เรื่องที่ 43 ขอเก็บตกความเดือดจากห้องประชุมกรรมาธิการงบประมาณปี 2565 ระหว่าง “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ส.ส.มหา สารคาม พรรคเพื่อไทย และ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยช่วงเช้าวันที่ 5 ส.ค. “ยุทธพงศ์” บุกไทยเบฟ ยื่นหนังสือถึง “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” เพื่อขอให้ช่วยซื้อที่ดินของมารดาตนที่ จ.มหาสารคาม จำนวน 100 ไร่ ไร่ละ 6 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 600 ล้านบาท เพื่อที่จะได้นำเงินไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เหมือนกับที่หลายปีก่อน “เจ้าสัวเจริญ” ซื้อที่ดินมารดา บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในราคา 600 ล้านบาท ทันใดนั้น เรืองไกร ได้ขับรถเบนซ์คันงาม ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเปิดเผยว่า “มีผู้ใหญ่ใจดีซื้อให้” มาจอดอยู่บริเวณหน้าบริษัทไทยเบฟ ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้ปะทะคารมกัน
“เรืองไกร” ยั่วโมโหด้วยการถามยุทธพงศ์ว่า ภรรยามาด้วยหรือไม่ ก่อนที่ “ยุทธพงศ์” จะหัวร้อนโมโหขึ้นมาเล็กน้อย เพราะอีกฝ่ายโชว์เอกสารสมรส ก่อนที่ทั้งคู่ จะเริ่มเถียงกันถึงการยื่นดำเนินคดีของกันและกัน แล้วบอกให้รีบไปดำเนินการ
ด้าน “ยุทธพงศ์” ไม่รอช้าโชว์เอกสาร ให้เรืองไกรดูว่าไปฟ้องร้องดำเนินคดีมาแล้ว เพียงรอไปยื่นเรื่องด้วยตัวเอง ยืนยัน ตนเป็นคนจริง ไม่ใช่ชอบส่งเรื่องไปตามไปรษณีย์เหมือนเรืองไกร อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีเหตุรุนแรง ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับ
“ยุทธพงศ์” และ “เรืองไกร” มีเรื่องหมาดหมางกันมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะในขั้นกรรมาธิการงบประมาณวาระ 1 เห็นทีเมื่อสภาพิจารณาวาระ 2 คงได้เห็นทั้งคู่ปะทะคารมกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันแน่นอน
โดย นพวัชร์