ศบค.พร้อมงัด อู่ฮั่นโมเดล ถ้าจำเป็น
สำหรับโมเดลอู่ฮั่น เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็ต้องฟังกระทรวงสาธารณสุขว่าประมาณสถานการณ์อย่างไร จำเป็นต้องใช้โมเดลอู่ฮั่นหรือไม่ แต่ ศบค.มีความพร้อมในทุกกรณี
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการล็อกดาวน์ 13 จังหวัด เริ่มวันที่ 20 ก.ค.นี้ว่า สำหรับนอกเวลาเคอร์ฟิว ยังใช้คำว่า “ให้” ยังไม่ใช้คำว่า “ห้าม” โดยให้งดเดินทาง ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม เมื่อมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น อาจจะต้องใช้คำว่าห้าม ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น จะมีกิจกรรมและกิจการที่ได้รับการยกเว้นน้อยกว่านี้
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับสื่อมวลชน ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางออกไปทำงานนอกสถานที่ได้ แต่เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับประชาชนขอให้สื่อมวลชนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับอาสาสมัครการทำงานบริการด้านสาธารณสุข ก็ได้รับการยกเว้นตามข้อกำหนด ให้สามารถออกไปทำงานได้
เมื่อถามว่า ศบค.มีการพิจารณาเตรียมยกระดับใช้อู่ฮั่นโมเดลหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ศบค.ได้มีการเตรียมการในทุกสถานการณ์ โดยมีการคิดไว้ตลอดเวลาว่า เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะทำอย่างไร และเมื่อสถานการณ์ไม่ดีไปกว่านี้จะทำอย่างไร สำหรับโมเดลอู่ฮั่น เป็นข้อพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็ต้องฟังกระทรวงสาธารณสุขว่าประมาณสถานการณ์อย่างไร จำเป็นต้องใช้โมเดลอู่ฮั่นหรือไม่ แต่ ศบค.มีความพร้อมในทุกกรณี
ส่วนการล็อกดาวน์แบบเต็มรูปแบบนั้น จะต้องมองหลายปัจจัยประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็น จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนสถานพยาบาลที่มีอยู่ และปัจจัยอื่นทางด้านเศรษฐกิจ โดยมองทุกมิติ
ถามว่า ศบค.ประเมินว่าเอาอยู่หรือไม่ เลขา สมช. กล่าวว่า ความสำเร็จในมาตรการควบคุมโรคจะประกอบด้วย 4 ส่วนคือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน ที่จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้มาตรการต่างๆมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากทั้ง 4 ส่วนนี้ร่วมมือกันก็จะเอาอยู่ แต่ถ้า 2 ส่วนไม่ร่วมมือกัน ต่อให้มีมาตรการใดๆก็คงไม่น่าจะเอาอยู่
พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวถึงข้อเสนอบางฝ่ายให้ปรับโครงการ ศบค.ว่า ปัจจุบันโครงสร้างของ ศบค.ทำงานได้เป็นอย่างดี แม้บางครั้งจะให้ข้อมูลที่แตกต่างกันไป แต่ถือว่ามีความพร้อม สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การจะปรับหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนตัวเห็นว่า ศบค.ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
“ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือมาเป็นอย่างดี ขอเวลาอีก 14 วัน ถ้าได้รับความร่วมมืออย่างดีแล้ ศบค.มีความมั่นใจว่าสถานการณ์จะมีความคล้าย”