“ธนกร” ยัน “บิ๊กตู่” ไม่งดจัดสงกรานต์แต่ยังตั้งการ์ดสูง
โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เตรียมประชุม ศบค. ชุดใหญ่ หารือมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ 18 มี.ค.นี้ ยืนยันไม่ห้ามจัดกิจกรรมสงกรานต์ ยังเน้นมาตรการ VUCA ฉีดวัคซีนเข็ม3 โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและกลุ่ม 608 ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ รวม 18,943 ราย เสียชีวิต 69 ราย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันยังไม่มีนโยบายหรือแนวคิดในการห้ามจัดกิจกรรมสงกรานต์ในปีนี้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการ VUCA (Vaccine, Universal Prevention, Covid Free Setting, ATK) รวมทั้งต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิดกระตุ้นเข็ม 3 ทั้งผู้เดินทางกลับบ้านและผู้ที่อยู่ที่บ้าน เน้นมาตรการป้องกันตนเองทั้งระหว่างเดินทางกลับและระหว่างร่วมกิจกรรม ส่วนสถานที่จัดงานต่างๆ รวมไปถึงต้องมีการสุ่มตรวจ ATK ทั้งก่อนและหลังเดินทางไปต่างจังหวัด พร้อมเน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงที่ควรเข้ารับวัคซีนอย่างเร่งด่วน ที่เรียกว่า กลุ่ม “608” ประกอบด้วย 1. กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 2.กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และ 3. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ขอให้รับวัคซีนป้องกันโควิดและการเสียชีวิตอย่างเร่งด่วน ซึ่งในขณะที่ประเทศไทยมีวัคซีนที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกันสื่อสารทำความเข้าใจให้กับคนเหล่านี้ เพื่อให้ได้วัคซีนโควิดอย่างทั่วถึง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมาตรการอื่น ๆ ทาง ศบค. ชุดใหญ่จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 18 มีนาคม นี้ เพื่อผ่อนคลายกิจกรรม กิจการต่าง ๆ ซึ่งคาดหวังว่า ประชาชนจะได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงสงกรานต์ปกติ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตปกติ เหมือนช่วงก่อนมีโควิดที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีห่วงกิจกรรมที่อาจจะเกิดความเสี่ยงทำให้ติดโควิดได้ง่ายมากขึ้น ในช่วงเดินทางกลับภูมิลำเนา การรวมตัวของญาติพี่น้อง การพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน การทำกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การสาดน้ำปะแป้ง และกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการเฝ้าระวังในสถานที่เสี่ยง ดังนั้น ขอให้ประชาชนรณรงค์ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ ด้วย
สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ รวม 18,943 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 18,877 รายผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 66 ราย ผู้ป่วยสะสม 843,365 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 25,005 ราย หายป่วยสะสม 650,609 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 224,328 ราย เสียชีวิต 69 ราย ล่าสุดการให้บริการวัคซีน โควิด-19 สะสมอยู่ที่ 125,076,762 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 53,999,327 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 49,869,389 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 19,422,997 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,785,049 โดส อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 10,887 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 985.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (114.4%)