แรบบิท จันท์ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากส้มมะปี๊ด
ผลิตภัณฑ์จากเกษตรแปรรูปในปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ด้วยกระแสความโหยหาสิ่งที่มาจากธรรมชาติของผู้บริโภค โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการรับประทาน หรือเป็นของใช้ภายนอก
แบรนด์ “แรบบิท จันท์ ” (Rabbit Chan) เป็นธุรกิจที่ Start up ขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่เป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น โดยแนวคิดของ “วรพชร วงษ์เจริญ” หญิงสาวที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรในยามที่ไม่ใช่ฤดูกาลแห่งผลผลิต
-จากสาวออฟฟิตสู่ธุรกิจ
วรพชร ในฐานะเจ้าของกิจการ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากส้มมะปี๊ดแบรนด์ “แรบบิทจันท์” บอกถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ ว่าเดิมทีตัวเธอเองก็เป็นพนักงานออฟฟิตทั่วไปเป็นการประจำทางด้านซอฟท์แวร์ ตรงตามสายการศึกษาที่ตัวเธอจบมาในระดับปริญญาโท โดยที่ทำงานไปได้สักระยะหนึ่งตัวเธอเองรู้สึกว่าจะเป็นโรคออฟฟิตซินโดรม (Office syndrome) จึงคิดว่าน่าจะหางานอย่างอื่นทำแทนการเป็นพนักงานออฟฟิต
ทั้งนี้ ด้วยพื้นฐานทางครอบครัวที่ทำศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติโป่งแรด จังหวัดจันทบุรี จึงทำให้เริ่มมองเห็นไอเดียที่จะนำมาสร้างธุรกิจ ประกอบกับที่มองเห็นความจริงที่ว่าเมื่อหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรจะไม่มีรายได้อะไรเลย ตนจึงคิดที่จะแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
ตัวเธอจึงเลือกส้มมะปี๊ด ซึ่งเป็นผลผลิตท้องถิ่นของจังหวัดจันทบุรีมาแปรรูป เพื่อสร้างแบรนด์สร้างธุรกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่การดูแลสุขภาพที่ดีของเกษตรกรและผู้บริโภค เนื่องจากตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณะสุขพบว่า เกษตรกรที่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูกจะมีสารตกค้างอยู่ในร่างกายมากถึง 1.5 แสนคน หรือประมาณ 36.46% ซึ่งถือว่าสูงมาก และตอบรับกระแสของการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติ
“ส้มมะปี๊ด ถือเป็นตระกูลเดียวกับส้มจี๊ด โดยที่จันทบุรีส้มมะปี๊ดจะมีความเปรี้ยว และหอมกลิ่นส้มมากกว่า ซึ่งข้อมูลจากกรมการเกษตรเดือนตุลาคมปี 58 มีผลงานวิจัยออกมาว่า มีวิตามินซีมากกว่ามะนาว 10% และมีรสชาติเปรี้ยวกว่ามะนาว ซึ่งหมายความว่าในฤดูกาลที่มะนาวแพงผลละ 5-10 บาท สามารถใช้ส้มมะปี๊ดแทนมะนาวได้ทุกอย่าง”
-แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
วรชร บอกต่อไปอีกว่า จุดยืนของแบรนด์คือจะต้องใช้วัตถุดิบจากสวนเกษตรอินทรีย์เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์น้ำมะปี๊ด ซึ่งจะมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง แบรนด์ยังเลือกใช้น้ำผึ้งจากสวนออร์แกนิคไทยแลนด์ เนื่องจากผึ้งที่ถูกเลี้ยงจะอยู่ในศูนย์ที่ไม่ใช้สารเคมีด้วย อีกทั้งแบรนด์จะไม่มีการเติมแต่งกลิ่น ไม่ใช้สารกันเสีย ดำเนินการผลิตด้วยการสเตอริไรส์ (Sterilization) โดยใช้เวลาศึกษาเป็นเดือน เพื่อหาอุณหภูมิและเวลาที่จะทำให้เครื่องดื่มน้ำมะปรี๊ดสามารถอยู่ได้ในระยะเวลา 1 ปี
อย่างไรก็ดี แบรนด์ยังนำส้มมะปรี๊ดมาแปรรูปให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยถือเป็นเจ้าแรกที่ทำ เพราะปกติชาวจันทบุรีจะใช้ส้มมะปี๊ดเป็นเครื่องครัว เสมือนกับการมีพริก มีมะนาวติดไว้ในครัว เวลาที่ต้องการทำอาหารก็จะใช้ส้มมะปี๊ดเป็นเครื่องปรุง แต่แบรนด์มองในมุมต่างเพราะจากงานวิจัยได้พบสรรพคุณในการรักษาสิว ฝ้า กะ แม้กระทั่งการขจัดรังแค แบรนด์จึงสร้งสรรค์ออกมาให้เป็นเครื่องสำอาง
สำหรับช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้น จะมีจำหน่ายที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติโป่งแรด และจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ เพจแรบบิท จันทร์ โดยที่ภายในเพจจะเป็นการให้องค์ความรู้ทางด้านการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งมีผู้ติดตามอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ศูนย์กสิกรรมฯของแบรนด์บนพื้นที่ 5 ไร่นั้น แบรนด์ยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์ โดยภายในศูนย์จะมีการทำปุ๋ยหมัก การปลูกพืชสมุนไพร ผัก และผลไม้แบบออแกนิกเพื่อจำหน่ายด้วย ซึ่งแบรนด์เองก็เป็นสมาชิกลุ่มการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) โดยกลุ่มจะมีคลังสินค้าออแกนิกที่จะรับผลผลิตจากเกษตกรที่เป็นสมาชิก ซึ่งแบรนด์จะมีการส่งผลผลิตไปให้ตามความต้องการ ตามที่ศูนย์มีผลผลิต
ส่วนกลยุทธการทำตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าปีนี้จะเป็นการนำผลิตภัณฑ์เข้าเจาะตลาดในกรุงเทพมหานคร โดยล่าสุดได้มีการเจรจาทางธุรกิจไปแล้ว 5 แห่ง เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปวางจำหน่ายประกอบด้วย เลมอน ฟาร์ม (Lemon Farm),สันติอโศก ,โกลเด้นเพลส (Golden Place),คิงพาวเวอร์ และฐานธรรมธุรกิจพระราม 9 ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ได้มีการส่งผลิตภัณฑ์น้ำส้มมะปี๊ดเข้าไปเปิดตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองผลิตภัณฑ์แล้ว
ทั้งนี้ หลังจากที่ผลิตภัณฑ์น้ำสัมมะปี๊ดเป็นที่คุ้นเคยและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคแล้ว แบรนด์จะทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องสำอางเข้าสู่ตลาดเป็นลำดับต่อไป ได้แก่ สบู่เหลวส้มมะปี๊ด,สบู่ก้อน,โลชั่น,แชมพู และมาร์คหน้าเวลากลางคืนแบบไม่ต้องล้างออก (Sleeping Mask)
“แบรนด์เลือกที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นของรับประทานเพื่อปูทางการทำตลาดก่อน เนื่องจากเป็นวิธีในการเข้าหาผู้บริโภคได้ง่ายกว่าการนำเสอผลิตภัณฑ์เป็นของใช้ เพราะหากผู้บริโภคได้ชิมแล้วถูกใจ การนำผลิตภัณฑ์อื่นเข้าไปเพิ่มเติมก็จะทำได้ง่ายขึ้น”
-ต่อยอดผลิตภัณฑ์
วรพชร บอกอีกว่า แบรนด์เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้แก่ เยลลี่ส้มมะปี๊ดที่สามารถดื่มได้พร้อมกับเนื้อส้มมะปี๊ด และสเปรย์ระงับกลิ่นเท้าจากส้มมะปี๊ด โดยขั้นตอนปัจจุบันผ่านการพัฒนาและวิจัย (R&D) เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม และการขอใบรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาการและยา (อย.) ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะสามารถออกสู่ตลาดเพื่อจำหน่ายได้ประมาณปลายเดือนพฤษภามคมนี้ นอกจากนี้ ยังมีน้ำมะปี๊ดผสมเนื้อว่านหางจระเข้ ซึ่งจะใช้ว่านหางจระเข้จากสวนมาตรฐานออร์แกนิคไทยแลนด์
“จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ แรบบิท จันท์ อยู่ที่การใช้วัตถุดิบที่เป็นเกษตรอินทรีย์มาแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ต้องการดูแลสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภคจากการไม่ใช้สารเคมี”.