“บจก.ป.สยามทรานสปอร์ต”ขนส่งสินค้ามาตรฐาน KPI สูง 95%
ระบบขนส่งสินค้า หรือโลจิสติกส์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญของธุรกิจ เพราะเป็นส่วนที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ค้าต่อผู้ค้า และผู้ค้าต่อผู้ขาย ดังนั้น การทำระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ฉับไว จึงเป็นคุณสมบัติอันดับต้นๆที่ผู้ประกอบการที่ต้องการขนส่งสินค้าจะเลือกใช้บริการ
นิธิวรรสน์ หลินภัทรชัย มองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจทางด้านโลจิสติกส์ของครอบครัว เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผู้ใช้บริการในตลาด และ Startup ธุรกิจของตนขึ้นมา ภายใต้ชื่อ บริษัท ป.สยามทรานสปอร์ต จำกัด โดยกำลังขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
-ปรับธุรกิจสู่เชิงรุก
นิธิวรรสน์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บจก.ป.สยามทรานสปอร์ต บอกถึงที่มาที่ไปของไอเดียในการทำธุรกิจ ว่า มีจุดเริ่มต้นจากธุรกิจของครอบครัวที่ทำทางด้านเกี่ยวกับการขนส่งสินค้ามามากกว่า 40 ปี โดยในเชิงธุรกิจก็จะเป็นการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค หรือร้านโชว์ห่วย ในพื้นที่ของจังหวัดนครสวรรค์ ตาก แม่สอด เป็นต้น ซึ่งภาพรวมของธุรกิจเองก็เริ่มที่จะมีการแข่งขันอย่างรุนแรงมากขึ้น มีการตัดราคาค่าขนส่งเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด โดยตนมองว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไปคงจะไม่ดีแน่
ทั้งนี้ ในปี 2553 จึงเกิดประกายไอเดียในการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ของตนขึ้นมา แต่ยังอยู่ในสาขาของทางด้านการขนส่งแบบเดิม โดยเป็นการต่อยอด หรือเปลี่ยนไลน์ธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นการุกเข้าหาลูกค้ามากขึ้น จากเดิมที่เราจะเป็นฝ่ายรอให้ลูกค้านำสินค้ามาให้เรากระจายสินค้าให้ มาเป็นการเข้าหาโรงงานขนาดใหญ่เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าไปยังทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นทางภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ โดยที่ทางโรงงานไม่จำเป็นต้องขนส่งสินค้ามาให้บริษัท แต่บริษัทจะดำเนินการเข้าไปรับสินค้าเอง เพื่อดำเนินการจัดส่งต่อไปยังปลายทางตามที่ต้องการ
” เมื่อมีการปรับไลน์ของธุรกิจใหม่ตนก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ด้วยจากเดิมที่ใช้ชื่อบริษัท ป.สยามเทรดดิ้ง&ทรานสปอร์ต จำกัด มาเป็น บริษัท ป.สยามทรานสปอร์ต จำกัด พร้อมปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจการให้บริการไปสู่เชิงรุกมากขึ้น เรียกว่าเค้าขาย เราส่ง โดยเป็นการนำรถไปรับสินค้าถึงหน้าโรงงาน ขอเพียงมีวอลุ่ม หรือจำนวนของสินค้าที่มากพอ ส่วนเรื่องราคาก็อยู่ที่การตกลงกันแบบสมเหตุสมผล ซึ่งเป็นการให้บริการในรูปแบบของธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับผู้บริโภคทั่วไปโดยตรง (Business-to-Consume : B2C) “
-ใช้หลัก 1195 ในการให้บริการ
นิธิวรรสน์ บอกต่อไปอีกว่า ความยากของธุรกิจก็คือโรงงานส่วนใหญ่ยังไม่มีความมั่นใจในการให้บริการของบริษัท เกรงว่าเมื่อมีการปรับเปลี่ยนมาใช้บริการของบริษัท และยกเลิกการใช้บริการของเจ้าเดิมไปแล้ว หากบริษัทหายไปจะไม่สามารถกลับไปใช้บริการเจ้าเดิมได้ หรือกลัวว่าบริษัทเราจะอยู่ได้ไม่นาน โดยส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้บริการจากบริษัทของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น DHL หรือเคอรี่ (Kerry Express) ซึ่งหารู้ไม่ว่าบริษัทดังกล่าวเหล่านี้ก็ต้องมาใช้บริการผู้ประกอบการในประเทศต่ออีกทอดหนึ่ง
ส่วนจุดเด่นของการให้บริการของบริษัทนั้น อยู่ที่รูปแบบของการให้บริการที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่ผู้ใช้บริการจะต้องเดินทางมาส่งสินค้าด้วยตนเอง ซึ่งบางครั้งต้องใช้บุคลากรจำนวนมากในการส่ง และบางวันต้องเดินทางมาส่งหลายรอบเพราะต้องสิ่งสินค้าไปทั่วประเทศ แต่ของบริษัทจะเข้าไปรับสินค้าถึงหน้าโรงงานเลย ขอเพียงแค่มีวอลุ่มเพียงพอ ซึ่งจะเป็นการช่วยเซฟต้นทุนให้กับผู้ใช้บริการได้ ขณะที่ราคาการให้บริการก็จะคิดจากเนื้องานแบบสมเหตุสมผล
” การให้บริการของบริษัทจะยึดหลัก 1195 ซึ่งไม่ใช่เป็นหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ แต่เป็นรหัสการให้บริการของบริษัท โดยเลข 1 ตัวแรกหมายถึงราคา ส่วนเลข 1 ตัวที่สองหมายถึงภูมิภาค ซึ่งเมื่อรวมกันก็จะหมายถึงการให้บริการโดยคิดราคาเดียวกันทั้งภูมิภาค หรือ 1 ภาค 1 ราคา ขณะที่ตัวเลข 95 จะหมายถึงดัชนีวัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน (Key Performance Indicator : KPI) สูงถึง 95% ของการให้บริการ ซึ่งการจัดส่งจะใช้ระยะเวลากี่วันก็ขึ้นอยู่กับราคา และความเร่งรีบของงาน “
-ขยายศูนย์กระจายสินค้าทุกภาค
นิธิวรรสน์ บอกอีกว่า แผนในการขยายธุรกิจปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การพยายามสร้างสาขาการให้บริการให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น โดยคาดว่าจะเปิดศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มเติมในพื้นที่ภาคใต้ โดยมองว่าจะเปิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นศูนย์ของภาคใต้ตอนบน และที่อำเภอหาดใหญ่เป็นศูนย์ฯของภาคใต้ตอนล่าง โดยการขยายในรูปแบบดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทจะต้องใช้รถบรรทุกสินค้าร่วมกันทั้งหมด หรือขนส่งที่เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าให้ทอดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อกระจายงานให้ได้ตาม KPI ของการให้บริการที่บริษัทตั้งเอาไว้ ซึ่งอาจจะมีผลต่อผลกำไรที่ลดลงจาดการให้บริการ
ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์ฯแล้วที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นศูนย์ฯของภาคเหนือตอนล่าง โดยมีที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์ฯของภาคเหนือตอนบน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสานจะมีที่จังหวัดนคราราชสีมา เป็นศูนย์ฯสำหรับภาคอีสานตอนล่าง และมีที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อเป็นศูนย์ฯของภาคอีกสานตอนบน
” หากบริษัทมีศูนย์ฯที่มีศักยภาพพร้อม มีรถบรรทุกขนส่งสินค้าพร้อม เชื่อว่าจะทำให้มีโอกาสในการขยายงานเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีการให้บริการที่รวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ดี ในปีนี้บริษัทยังต้องการขยายการรับงานไปสู่โรงงานขนาดใหญ่ให้ได้อีก 1-2 รายเพื่อเพิ่มจำนวนฐานลูกค้า โดยเชื่อว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นได้ในระดับ 10-15% หรือเพิ่มเป็น 60 ล้านบาท จากเดิมที่บริษัทมีรายได้ประมาณ 50 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา “
นิธิวรรสน์ บอกอีกว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank) เปรียบเสมือนเป็นกล่องดวงใจ หรือเครื่องปั๊มลมหายใจให้กับเอสเอ็มอี โดยมีส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจของบริษัทให้ขยายตัวได้ผ่านทางกระแสเงินสด และเงินทุนหมุนเวียนทำให้ธุรกิจสามรถดำเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้น.