“AGALIGO” แบรนด์เครื่องสำอางจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีกำลังการซื้อจากผู้บริโภคอย่างมหาศาลทั้งจากผู้หญิงและผู้ชาย โดยจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายจากแบรนด์ต่างๆ ทั้งจากต่างประเทศ และในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ หรือแบรนด์ระดับรากหญ้า
“AGALIGO” คืออีกหนึ่งแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ภายใต้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางที่ก่อกำเนิดขึ้นจากโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง จากผู้เชี่ยวชาญที่ได้ชื่อว่าเป็นแพทย์โดยตรง ทำให้การันตีได้ถึงคุณภาพ และความปลอดภัยของผู้บริโภค
–จากประสบการณ์สู่ธุรกิจแพทย์หญิงเบญจรมย์ ไกรฤกษ์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและปรับรูปหน้า กรรมการผู้จัดการบริษัท อะกาลิโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เล่าถึงที่มาที่ไปของการทำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “AGALIGO” ว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากคลินิกความงามเล็กๆ ในจังหวัดลพบุรีในห้องตรวจขนาดไม่ใหญ่ 1 ห้อง จากการได้ตรวจและสอบถามอาการของไข้ ซึ่งทำให้ได้ทราบถึงปัญหาส่วนใหญ่ของคนไข้ว่า “ฝ้า” ที่เกิดขึ้นบนใบหน้ามาจากการดูแลตัวเองที่น้อยมากก่อนมาพบแพทย์ หรือบางรายไม่เคยดูแลตัวเองเลยจนมาถึงอายุ 30 ปี โดยทำให้เข้าใจว่าคนไข้บางส่วนไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวนี้เลย
ทั้งนี้ เมื่อได้ทราบถึงโจทย์ปัญหาของคนไข้จากประสบการณ์โดยตรง ทำให้เกิดแนวความคิดที่ตกผลึกในการคันคว้าและวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวพรรณให้กับคนไข้ หลังจากนั้นก็มีคนไข้ที่ได้ใช้ช่องว่างทางการตลาดผลิตภัณฑ์กลับมาซื้อซ้ำ โดยจากจุดดังกล่าวนี้ทำให้เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นว่าผลิตภัณฑ์ของเรานั้นดีจริง เมื่อดำเนินการมาได้ประมาณ 3-4 ปี จึงตัดสินใจขยายออกมาเป็นอีก 1 ธุรกิจ เพราะเห็นถึงปัญหา และมองแล้วว่ายังมีที่น่าจะสามารถสอดแทรกเข้าไปได้แบรนด์ “AGALIGO” จึง Startup ขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2557
“ ผลิตภัณฑ์ตัวแรกภายใต้แบรนด์ AGALIGO คือครีมกันแดด ซึ่งมุ่งเน้นความง่ายต่อการใช้งานของผู้บริโภค เพราะเราพบว่าปัญหาแรกของผู้บริโภคที่ไม่ชอบใช้ครีมกันแดดก็เพราะความเหนียวเหนอะหนะจาการใช้งาน ดังนั้น เราจึงทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้ตอบโจทย์โดยทำให้เป็นครีมกันแดดที่ผสมผสานควบคู่ไปกับรักษาฝ้าด้วย เรียกว่าให้จบในขั้นตอนเดียว โดยถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์แรกในประเทศไทยที่ครีมกันแดดมีสรรพคุณดังกล่าว ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจนต้องซื้อซ้ำ และมีการบอกต่อกันไปแบบปากปากต่อปากอีกเป็นจำนวนมาก ”
–ขยายออนไลน์/เพิ่มตัวแทนจำหน่าย
แพทย์หญิงเบญจรมย์ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “AGALIGO” ที่สำคัญก็คือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง และผู้ที่ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมามากกว่า 10 ชนิด ได้แก่ ครีมกันแดด เซรั่มบำรุงผิว และครีมสำหรับใช้เวลากลางคืน (Night Cream) เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์บางชนิดจะมีจำหน่ายเฉพาะที่คลินิก เพราะต้องถูกสั่งจ่ายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาเท่านั้น ทำให้ไม่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป
สำหรับช่องทางในการทำตลาดนั้น แรกเริ่มเลยก็จะใช้วิธีการลงโฆษณาตามสื่อ และนิตยสารต่างๆ รวมถึงมุ่งเน้นการใช้ช่องทางออนไลน์ในการเข้าถึงผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นทางเพจเฟสบุ๊ก, ไลน์แอด (Line@) และเว็บไซด์ นอกจากนี้ยังใช้บริการผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ออนไลน์ หรือบล็อกเกอร์ (Blogger) เพื่อรีวิวการใช้งานจากประสบการณ์จริงให้ผู้บริโภคได้รับรู้
อย่างไรก็ดี ในปี 2561 เราได้เตรียมที่จะขยายช่องทางในการทำตลาดเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีการปรับปรุงเรื่องของเนื้อหา หรือคอนเท้นท์ที่จะสื่อสารถึงผู้ริโภค รวมถึงการซื้อโฆษณาเพิ่มเติม และการเปิดรับตัวแทนมากขึ้น จากเดิมที่ส่วนใหญ่เราจะทำตลาดด้วยตนเอง และมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ตามหัวเมืองขนาดใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานครฯ และบุรีรัมย์ เป็นต้น โดยตั้งเป้าที่จะมีตัวแทนจำหน่ายให้ได้ทุกจังหวัด เพื่อให้ครอบคลุมผู้บริโภค
“ จากการดำเนินการขยายช่องทางการตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ AGALIGO โดยรวมทั้งหมดมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาทในปี 2561 หรือเติบโตขึ้นประมาณ 3 เท่าจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ”
–ครอบครัวของแพทย์
แพทย์หญิงเบญจรมย์ กล่าวต่อไปอีกว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ซึ่งค่อนข้างจะให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย ไม่ได้เชื่อจากการโฆษณา และกระแส แต่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ขณะที่ลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นก็มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดประสงค์หลักที่แท้จริงในการทำธุรกิจ ก็เพราะต้องการช่วยเหลือผู้อื่นให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริในเรื่องของความมั่นใจ และส่งผลทำให้ชีวิตเปลี่ยน
“ เราจึงเลือกทำธุรกิจที่สามารถช่วยเหลือคนได้ตามความถนัด ตามความสามารถ และความเชี่ยวชาญ โดยทุกอย่างที่นำเสนอจะต้องมุ่งเน้นความมีคุณภาพ และความปลอดภัย โดยผลิตภัณฑ์บางชนิดเราใช้เวลาค้นคว้าวิจัย และทดลองกว่าครึ่งปีก่อนที่จะนำออกมาจำหน่าย ”
หากถามถึงกุญแจสำคัญที่ไขประตูไปสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจนั้น แพทย์หญิงเบญจรมย์ตอบอย่างภาคภูมิใจว่ามาจากความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค โดยปัจจุบันตนเองมีคลินิกความงามที่เปิดให้บริการอยู่ถึง 4 สาขา และมีโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นธุรกิจของครอบครัวซึ่งเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 32 ปี ซึ่งด้วยระยะเวลาและศักยภาพจากความเป็นแพทย์ ทำให้ความซื่อสัตย์และจริงใจต่อผู้บริโภคจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเชื่อว่าสิ่งดังกล่าวเหล่านั้นผู้บริโภคจะสามารถสัมผัสได้ และจะเป็นแนวทางไปสู่การทำธุรกิจที่ยั่งยืน
“ ครอบครัวของตนเป็นครอบครัวของแพทย์ โดยมีคุณพ่อคือนายแพทย์วราศักดิ์ ไกรฤกษ์ น้องสาวเป็นแพทย์หญิงวรธิดา ไกรฤกษ์ แพทย์เฉพาะทางด้านรังสีวิทยา และแพทย์หญิงรัตนประภา ไกรฤกษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งทุกคนเป็นแพทย์ที่รับใช้ประชาชนขาวจังหวัดลพบุรีมาเป็นระยะเวลานาน และถือว่าเป็นเกียรติของตระกูล “