ปลาทูทรงเครื่อง “แม่มะลัย” สูตรเด็ดคุณย่าสร้างธุรกิจ
การทำธุรกิจยุคปัจจุบันต้องสร้างจุดเด่น และความน่าสนใจที่จะดึงดูดผู้บริโภคให้รู้สึกสะดุด จนต้องการที่จะทดลอง หรือสัมผัสให้เห็นด้วยตนเองว่าเป็นอย่างไร เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ และเป็นปัจจัยหนุนนำในการสร้างจุดขายได้เป็นอย่างดี
วิทวัส จันนาวัน คือผู้ที่ต่อยอดภูมิปัญญาธุรกิจของครอบครัว โดยนำนวัตกรรมเข้ามาผสมผสาน เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถมีอายุยาวนานมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งสารกันบูด จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ ปลาทูทรงเครื่อง ภายใต้แบรนด์ “แม่มะลัย” เพื่อเป็นการให้เกียรติคุณย่า ซึ่งเป็นผู้คิดค้นสูตรเด็ด
จากสูตรคุณย่าสู่ธุรกิจ
วิทวัส ในฐานะเจ้าของ และผู้จัดการฝ่ายขาย ร้านปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัย เล่าถึงที่มาที่ไปของธุรกิจให้ฟัง ว่า มีจุดเริ่มต้นจากความคิดของคุณย่า ซึ่งประกอบอาชีพขายปลาทูนึ่งที่จังหวัดอุดรธานีมากว่า 30 ปี โดยต้องการจะส่งปลาทูไปให้ลูกสาวที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งเป็นสูตรปลาทูทรงเครื่องในสไตล์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน ตนจึงนำแนวคิดดังกล่าวนี้ของคุณย่ามาปรับปรุง และประยุกต์แก้ไข เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับประทานได้ง่าย และเก็บไว้รับประทานได้เป็นระยะเวลานาน
การต่อยอดแนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (Innovation and Technology Assistance Program : ITAP) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยผ่านเครื่องจักรที่มีการควบคุมความร้อนมากกว่า 200 องศา และมีการควบคุมความชื้นให้ต่ำกว่า 36% ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถมีอายุในการรับประทานได้ถึง 1 ปีตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยไม่ต้องใส่สารกันบูด จนกลายมาเป็นปลาทูทรงเครื่องแบรนด์ “แม่มะลัย” ได้ในที่สุด
“มีลูกค้าถามบ่อยมากว่าจังหวัดอุดรธานีไม่น่าจะมีปลาทูได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วต้องเรียนว่าปลาทูสามารถมีได้ทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นภาคกลาง เหนือ หรืออีสาน เพราะเรามีห้องเย็นที่ใช้ลำเลียงปลาทูสดมาจากแหล่งของอาหารทะเล ที่สำคัญที่ต้องการให้ผู้บริโภคเข้าใจก็คือ ปลาทูคือปลาแมคเคอเรลสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งที่ร้านจะใช้ปลาตามธรรมชาติตามฤดูกาล เพื่อให้ได้ปลาทูที่สดใหม่สำหรับมาทำเป็นปลาทูทรงเครื่อง เสิร์ฟตรงถึงผู้บริโภค”
รุกตลาดออนไลน์และออฟไลน์
วิทวัส บอกถึงกลยุทธ์ในการทำตลาดให้ว่า ในระยะเริ่มต้นจะใช้ช่องทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซด์ที่เปิดให้บริการนำผลิตภัณฑ์ไปโพสจำหน่ายได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ขณะที่ช่องทางออฟไลน์จะวางจำหน่ายที่ร้านสุขสมบูรณ์ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีเปิดให้บริการอยู่ 11 สาขา รวมถึงร้านค้าในสนามบินจังหวัดอุดรธานี และร้านประชารัฐ ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศล่าสุดมีผู้ที่ทดลองนำเข้าไปทำตลาดที่ประเทศสิงคโปร์
อย่างไรก็ดี แผนการทำตลาดในระยะถัดไปจะดำเนินการนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายที่วิลล่า มาร์เก็ต (Villa Market) และร้านท็อป ซุบเปอร์มาร์เก็ต (Tops Supermarket) ในพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นก็จะขยายตลาดมาสู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตลาดในต่างประเทศกำลังทดลองทำตลาดอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยหากร้านค้าในญี่ปุ่นสนใจก็จะดำเนินการเรื่องการขอขึ้นทะเบียน อย. ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายอย่างเป็นรูปธรรม
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องแม่มาลัยมี 3 รสชาติ ได้แก่ 1.รสดั้งเดิม ,2.รสกระเทียม และ3.รสกระเพรา โดยรสดั้งเดิมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคสูงที่สุด ส่วนรสกระเทียมจะจะได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเด็ก และผู้สูงอายุ ขณะที่รสกระเพราจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ เพราะกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติความเป็นไทย
“จากกลยุทธ์การทำตลาด และแผนที่จะดำเนินการในระยะต่อไป เชื่อว่าจะทำให้ปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัยสร้างรายได้ได้ประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อปี และจะเพิ่มมากขึ้นตามช่องทางในการทำตลาดที่จะขยายเพิ่มมากขึ้นตามกลยุทธ์ที่วางไว้ตามขั้นตอน”
ไร้สารเคมีมีประโยชน์ต่อร่างกาย
หากถามถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ วิทวัส บอกว่า อยู่ที่การไม่ใส่ผงชูรส และสารกันบูด อีกทั้งยังผลิตมาจากเนื้อปลาทูที่สด สะอาดตามธรรมชาติ ผสมผสานกับสูตรของคุณยายทำให้ได้ปลาทูทรงเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โปรตีน และกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ที่เรียกว่า โอเมก้า 3 (Omega 3) ส่วนภาพรวมของธุรกิจในอนาคตนั้น ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องแบรนด์ “แม่มะลัย” เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค และกำลังดำเนินการเรื่องการทำผลิตภัณฑ์ให้เป็นออกแกนิก เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพด้วย
“ผลิตภัณฑ์ของเรามีส่วนผสมของสมุนไพรด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องการทำให้เป็นรูปแบบของออแกนิก โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาติดต่อกับเกษตรที่ปลูกผักแบบไร้สารเคมี เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิต”
นอกจากนี้ ยังต้องการพัฒนาต่อยอดทำให้ร้านเป็นจุดศูนย์กลางในการส่งปลาทูทรงเครื่องไปยังทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย และในต่างประเทศทั้งแถบทวีปเอเชีย และยุโรป เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถกระจายไปยังผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น