PATTARAPORN ใส่ใจทุกรายละเอียดจากมือสู่ผู้บริโภค
การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงทีนับว่าเป็นเรื่องสำคัญของการดำเนินธุรกิจ เพราะต่อให้สินค้าเราเจ๋ง หรือพิเศษกว่าผู้ประกอบการรายอื่นแค่ไหน สักวันก็ต้องมีคู่แข่ง
แม้ว่าคู่แข่งรายนั้นอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าเรา แต่การแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดย่อมเกิดขึ้น เพราะลูกค้าเองก็มีความแตกต่างกันออกไป และใช่ว่าทุกคนจะยินดีจ่ายเงินให้กับของที่ดีที่สุดเสมอ
ภัทรภร ศุภศรี กรรมการผู้จัดการ แบรนด์ Pattaraporn คือหญิงแกร่งคนหนึ่งของวงการธุรกิจที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงในวัฎจักรของธุรกิจ จนนำไปสู่อีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้มาจนถึงปัจจุบัน
ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง
ภัทรพร บอกให้ฟังว่า เดิมทีเธอเองทำธุรกิจด้วยการเปิดร้านเบเกอร์รี่ โดยมีหน้าร้านอยู่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างเทอร์มินอล 21, เซ็นทรัลบางนา และเดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค แต่ด้วยโลกของการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งในเวลาต่อมาได้เกิดคู่แข่งขึ้นเป็นจำนวนมากทั้งแบรนด์ที่เป็นของคนไทย และแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศ ส่งผลทำให้ยอดขายลดลง ทำให้ตัวเธอเองต้องกลับมาทบทวนว่าจะทำอย่างไรกับธุรกิจ และสินค้าที่ขายอยู่ในตอนนั้น
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเธอก็พบหนทางที่เธอกำลังมองหาเมื่อช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่มาถึง เธอได้ทำการทดลองทำสินค้าที่เรียกว่า เม็ดมะม่วงหินพานต์เคลือบคาราเมล ซึ่งเป็นของรับประทานเล่นในครอบครัววางจำหน่ายภายในร้านควบคู่กับเบเกอร์รี่ โดยมุ่งหวังให้ลูกค้าซื้อเป็นของขวัญ เพื่อนำไปมอบให้กับคนพิเศษ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนทำให้เกิดความคิดที่จะทำเม็ดมะม่วงหินพานต์เคลือบราคาเมลเป็นสินค้าพระรอง รองจากพระเอกจากเบเกอร์รี่
หลังจากนั้นจึงได้ดำเนินการจัดวางบนชั้นจำหน่ายสินค้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยยังคงมุ่งเน้นทำให้เป็นในลักษณะของฝากด้วยบรรจุภัณฑ์ หรือแพคเก็จจิ้งที่สวยงาม ซึ่งในระยะเวลาไม่นานของเม็ดมะม่วงหินพานต์เคลือบคาราเมลที่คาดหวังให้เป็นพระรองกลับมียอดขายแซงหน้าสินค้าหลักอย่างเบเกอร์รี่ เมื่อเป็นแบบนี้จึงเริ่มมองเห็นทิศทางของธุรกิจ และคิดว่าน่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางไปสู่การจำหน่ายเม็ดมะม่วงหินพานต์ โดยค่อยๆ ลดจำนวนของเบเกอร์รี่ลง จนในที่สุดก็เหลือเพียงเม็ดมะม่วงหินพานต์เคลือบคาราเมลภายใต้แบรนด์ “Pattaraporn” อย่างเต็มตัวมาจนถึงปัจจุบัน
ใส่ใจทุกกระบวนการผลิต
สำหรับจุดเด่นของเม็ดมะม่วงหินพานต์เคลือบคาราเมลของ Pattaraporn นั้น อยู่ที่คัดสรรเลือกเม็ดมะม่วงหินพานต์แบบคัดพิเศษที่ต้องเป็นมีขนาดใหญ่ ส่วนวิธีการทำก็จะเป็นแบบโบราณซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของครอบครัว โดยใช้กะทะทองเหลืองเป็นภาชนะในการทำ เพิ่มความใส่ใจด้วยการค่อยๆ ปรับไฟให้ความร้อนอยู่ในระดับที่ต้องการเพื่อเคี่ยวคาราเมลให้งวดแห้งและกรอบจนได้ที่ โดยที่ทั้งกระบวนการจะไม่มีการใช้นำมันเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด ทำให้ได้เม็ดมะม่วงหินพานต์เคลือบคาราเมลที่หอม และกรอบอร่อยไม่เหมือนใคร ซึ่งทุกกระบวนการมาจากการทำด้วยมือทั้งหมด
เม็ดมะม่วงหินพานต์เคลือบคาราเมลของ Pattaraporn จะมีทั้งรูปแบบที่มีงาขาว ซึ่งเป็นรสชาติดั้งเดิม และส่วนที่ผสมกับงาดำ นอกจากนี้ยังมีเม็ดมะม่วงหินพานต์อบเกลือ ซึ่งจะไม่ใช้วิธีการทอดเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ซื้อหาตามความชอบของแต่ละคน อย่างไรก็ดี ในอนาคตเธอบอกว่าจะมีรสชาติใหม่ออกมาเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ และขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น โดยปัจจุบันลูกค้าของ Pattaraporn จะแบ่งเป็นคนไทย 50% และชาวต่างชาติ 50% ซึ่งสินค้าจะมีหน้าร้านอยู่ที่ เทอร์มินอล 21, เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลเวิลด์ โดยสามารถสร้างยอดขายต่อปีได้กว่า 10 ล้านบาท
เพิ่มช่องทางออนไลน์เข้าถึงลูกค้า
ภัทรภร บอกอีกว่า กลยุทธ์ในการทำตลาดนั้น เดิมทีเป็นแบบเรียบง่ายไม่ได้มีการลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางของสื่อใดๆ อาศัยจุดเด่นที่รสชาติ และความเอาใจใส่ในการคัดสรรเม็ดมะม่วงหินพานต์ที่จะนำมาใช้เป็นหลักในการสื่อสารกับผู้บริโภค ทำให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปากจนทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ผสมผสานกับสื่อแขนงต่างๆ ที่ได้รับรู้เรื่องราวของแบรนด์ Pattaraporn และสนใจเข้ามาสัมภาษณ์ จึงทำให้แบรนด์ Pattaraporn เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ด้วยความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร กลยุทธ์ทางการตลาดในปัจจุบันจึงหันมาใช้โลกออนไลน์เป็นหลัก ทั้งทางเฟสบุ๊ก (Facebook) และไลน์ (LINE) โดยเป็นช่องทางที่สะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็สามารถจำหน่ายสินค้าได้ และที่สำคัญต้นทุนไม่สูง ส่วนการจัดส่งสินค้าของแบรนด์ Pattaraporn จะเลือกใช้บริการขนส่งของเอกชน ซึ่งจะจัดส่งสินค้าให้ถึงประตูหน้าบ้านของลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการสั่งสินค้า และให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพโดยไม่ต้องรอนาน โดยสามารถส่งได้ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดบางพื้นที่
วางรากฐานในประเทศก่อนลุยต่างประเทศ
ส่วนเป้าหมายในการทำธุรกิจ และแผนการดำเนินงานในอนาคตนั้น ภัทรภรบอกว่า อยากทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Pattaraporn เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติว่าหากมาประเทศไทยแล้วจะต้องซื้อเม็ดมะม่วงหินพานต์แบรนด์ Pattaraporn กลับไปเป็นของฝาก โดยกระบวนการในปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการจัดทำแพคเก็จจิ้งให้มีความสวยงาม โดดเด่นทั้งรูปแบบที่เป็นกล่อง และซอง นอกจากนี้ ยังพยายามหาแนวทางเพิ่มกำลังผลิตด้วยการนำเครื่องจักรเข้ามาประยุกต์ใช้ ซึ่งได้มีการประสานงานกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนา เพื่อทำให้เครื่องจักรสามารถมีวิธีการทำได้เหมือนกับการทำด้วยมือ เพราะเธอจะใส่ใจเรื่องกระบวนการทำเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าไว้วางใจเลือกซื้อ
“ มีตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศติดต่อเข้ามาเหมือนกัน เพื่อขอเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการนำผลิตภัณฑ์ของ Pattaraporn ไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ แต่เราต้องการวางรากฐานที่มั่นคง และแข็งแกร่งภายในประเทศให้ได้เสียก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยขยายออกไปสู่ต่างประเทศเป็นลำดับต่อไป ”