เที่ยวไหว้พระ เวียนเทียนวัดสำคัญรอบกทม. วันมาฆบูชา 2566

วันมาฆบูชา เทศกาลงานบุญใหญ่ประจำปี คนไทยสายบุญพร้อมใจเข้าวัดทำบุญ เวียนเทียน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ กทม.นั้น มีวัดต่าง ๆ มากมายที่สามารถเดินทางไปทำบุญไหว้พระ เพื่อสร้างกุศล เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ซึ่งเราขอพาไปชมวัดสำคัญ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ด้วย
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม หรือ วัดราชบพิธ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 อยู่ริมคลองคูเมืองเดิมใกล้ ๆ กับกระทวงมหาดไทย เป็นวัดที่มีเสมาขนาดใหญ่ทำเป็นเสาศิลาสลักรูปเสมาธรรมจักรอยู่บนเสาตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2412 (สมัยรัชกาลที่ 5) เสร็จในปี พ.ศ. 2413
ความสวยงามของวัดมีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมตะวันตก คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตก นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล มี “พระพุทธอังคีรส” เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีหินอ่อนจากประเทศอิตาลี
ความสำคัญอีกอย่างภายใต้ฐานชุกชียังเป็นที่ประดิษฐานพระสรีรางคาร และพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์เกือบทุกรัชกาลด้วย ซึ่งกิจกรรมงานบุญหลัก ๆ ที่ทางวัด จัดในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ การทำบุญตักบาตร ร่วมสวดมนต์ และการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
วัดบวรนิเวศวิหาร

วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวร เป็นวัดที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพโปรดให้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็สวรรคตเสียก่อน ถึงปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รวมวัดรังสีสุทธาวาสเข้าหาวัดบวรนิเวศวิหาร
พระประธานในพระอารามนี้มีความแตกต่างจากวัดอื่น ๆ โดยทั่วไป คือ มีพระประธาน 2 องค์ และล้วนมีความสำคัญเนื่องจากเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณ ได้แก่ พระพุทธชินสีห์ ซึ่งอัญเชิญมาจากวิหารทิศเหนือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก โดยอัญเชิญมาทั้งองค์ราวปี พ.ศ. 2373 และพระสุวรรณเขต หรือ “พระโต” หรือ หลวงพ่อเพชร พระประธานองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานไว้เบื้องหลังพระพุทธชินสีห์ เป็นพระประธานองค์แรกของอุโบสถวัดนี้ ซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ อัญเชิญมาจากวัดสระตะพาน จังหวัดเพชรบุรี
วัดบวร เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์ และยังเป็นที่ประดิษฐานพระสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ฐานองค์พระพุทธชินสีห์ในพระอุโบสถ โดยปกติแล้ววันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวัดบวรจะมีการเปิดให้ประชาชนทำบุญ เวียนเทียน และสักการะพระพุทธรูปในพระอุโบสถ ร่วมสวดพระพุทธมนต์ตลอดทั้งวันจนถึงช่วงค่ำ อิ่มบุญกันตลอดทั้งวัน
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ วัดสระเกศ หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ ภูเขาทอง หรือ พระบรมบรรพต ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัด และนับเป็นสถานวัดสำคัญที่จัดงานรื่นเริงในเทศกาลต่าง ๆ ที่สำคัญของคนไทย โดยเฉพาะวันลอยกระทง วัดสระเกศ เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ โดยในสมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะ และสร้างพระบรมบรรพต
ทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานนามว่า “สุวรรณบรรพต” มีความสูง 77 เมตร บนยอดสุวรรณบรรพตเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์ และพิสูจน์ได้ว่าเป็นของพระสมณโคดม ซึ่งเป็นส่วนแบ่งของพระราชวงศ์ศากยราชเพราะมีคำจารึกอยู่
วัดสระเกศ กำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชา 2566 โดยมีการทำบุญตั้งแต่ช่วงเช้า พระภิกษุสามเณรออกรับบิณฑบาตรอบพระบรมบรรพต พร้อมฟังพระธรรมเทศนา ณ พระอุโบสถ แสดงโดย พระเดชพระคุณ พระธรรมโพธิมงคล เจ้าอาวาสวัดสระเกศ และช่วงเย็น พระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชน ทำวัตรค่ำพร้อมกัน ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร

วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร หรือ วัดปทุมวนาราม ตั้งอยู่กลางใจเมืองระหว่าง สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นวัดใหญ่ท่ามกลางย่านศูนย์การค้าชื่อดังของกรุงเทพฯ ที่นี่จึงเป็นวัดสำคัญ และเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมอัฐิ พระราชสรีรางคาร และพระอัฐิของพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ในราชสกุลมหิดลหลายพระองค์
วัดปทุมวนาราม ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับวังสระปทุม รัชกาลที่ 4 ทรงต้องการสร้างสถานที่ตากอากาศขึ้นในบริเวณนอกพระนคร โดยบริเวณของวัดปทุมวนารามในอดีตนั้นเป็นที่ลุ่มต่ำมีน้ำขังตลอดเวลาและมีบัวขึ้นอยู่ทั่วไป ระหว่างการก่อสร้างวัดและวัง ได้มีการขุดลอกสระ 2 สระเชื่อมต่อกัน สระทางด้านเหนือเรียกว่าสระใน เป็นเขตหวงห้ามส่วนพระองค์และฝ่ายใน ส่วนทางด้านใต้เรียกว่าสระนอก ทรงอนุญาตให้คนทั่วไปเข้ามาด้านในได้ และสระนอกทางด้านใต้ไว้เป็นที่แล่นเรือของข้าราชการและประชาชนทั่วไป พระราชทานชื่อบริเวณนี้ว่าปทุมวัน ก่อนจะสร้างวัดขึ้นริมสระนอกเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระราชทานชื่อว่า วัดปทุมวนาราม แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดสระปทุม หรือวัดสระ
ทั้งนี้ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีกิจกรรมทางพุทธมากมาย ทำบุญ เวียนเทียน เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ คือ พระเสริม พระสายน์ และ พระแสน รวมถึงเดินทางไปวัดได้สะดวกด้วยโดยในวันมาฆบูชา 2566 นี้ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร มีกำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศลวันมาฆบูชา ประจำปีพุทธศักราช 2566 ให้พุทธศานิกชมเข้าร่วม โดยมีทั้งการตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 9 รูป, การเจริญพระพุทธมนต์, เวียนเทียนรอบอุโบสถ และอื่นๆ
วัดสุทัศนเทพวราราม

วัดสุทัศนเทพวราราม หรือ วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า เป็นวัดที่รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2350 ภายในวัด ประดิษฐาน พระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย นอกจากนั้นยังเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ด้วย วัดสุทัศน์ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่น ๆ เพราะมีสัตตมหาสถานเป็น อุเทสิกเจดีย์ หรือต้นไม้สำคัญในพุทธศาสนา 7 ชนิดแทน
ขณะที่บานประตูพระวิหาร ซึ่งเป็นศิลปกรรมชั้นเยี่ยมทางด้านการแกะสลักในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะคู่ที่เป็นฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้นำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ในวันสำคัญทางพระพุทธศานาทางวัดเปิดให้พุทธศาสนิกชนมาทำบุญ สวดมนต์ เวียนเทียนได้ในช่วงวันสำคัญต่างๆ ทางพระพุทธศาสนาเป็นประจำในวันมาฆบูชา 2566 นี้ ทางวัดสุทัศนเทพวรารามได้มีการจัดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาล วันมาฆบูชา ในระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2566 และที่ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีกิจกรรมภายในงานคือ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ, สักการะพระธาตุประจำปีเกิด 12 นักษัตร, สักการะพระพุทธรูปประจำวัน, กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม,พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ 66 รูป, walk rally 9 มงคล สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์, เยี่ยมชมบูธชุมชน
วัดยานนาวา

วัดยานนาวา เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา จุดเด่นของวัดยานนาวา คือ การสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์ แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไปในรัชสมัยของในหลวง รัชกาลที่ 3 เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภาซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย นอกจากนั้นมีความเชื่อที่ว่า หากได้มาทำบุญ ขอพรที่นี่จะทำให้ “การค้าขาย การทูต เจริญรุ่งเรือง” วัดยานนาวา เป็นวัดโบราณที่มีมานานคู่กรุงศรีอยุธยามีชื่อเดิมว่า วัดคอกควาย ได้รับการยกย่องให้เป็นพระอารามหลวงในช่วงกรุงธนบุรี พ.ศ. 2325 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สร้างพระอุโบสถหลังเล็กขึ้นถวายและพระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่ทางวัด อีกทั้งทรงพระราชทานนามใหม่ว่า วัดคอกกระบือ
ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นไกรสรวิชิต เป็นแม่กองปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดยานนาวา ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้เคยปฏิสังขรณ์ไว้แล้ว พร้อมทั้งทรงให้สร้างพระเจดีย์ มีฐานเป็นสำเภาเท่าขนาดเรือสำเภาจริง ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวในประเทศไทย แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2387 พระอุโบสถของวัดแห่งนี้ ยังถือได้ว่าเป็นงานศิลปกรรมชั้นเยี่ยมในสมัยรัตนโกสินทร์ ทั้งหน้าบันฝีมือช่างหลวงในสมัยรัชกาลที่ 1 ที่ทำเป็นลายเทพพนม ประดับด้วยลวดลายสัตว์หิมพานต์ ภายในพระอุโบสถมีพระประธาน 4 องค์ เป็นพระพุทธรูปปั้นปางมารวิชัย โดยมีขนาดต่าง ๆ กัน
ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วัดยานนา เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสำคัญในการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศานา และยังสะดวกต่อการเดินทางไปทำบุญ และเวียนเทียน
วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร

วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร วัดสำคัญของชาวฝั่งธน ย่านบางกอกใหญ่ บางกอกน้อย เป็นวัดหนึ่งที่มีความสำคัญ เคียงคู่กับประวัติศาสตร์ไทยมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ วัดหงส์เป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเศรษฐีชาวจีนเป็นผู้สร้างด้วยแรงศรัทธา จึงเป็นวัดราษฏร์ ต่อมากรุงธนบุรีเป็นราชธานีวัดหงส์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นวัดหลวง นสมัยนั้นวัดหงส์เป็นวัดที่รุ่งโรจน์มาก เป็นแหล่งใหม่ของสำนักสงฆ์ สามเณรจำนวนมาก และเป็นศูนย์การศึกษาที่เจริญเข้าขั้นมหา-วิทยาลัย อยู่ในพระอุปถัมภ์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์ได้ปฏิสังขรณ์ใหม่ สร้างศาลาการเปรียญพร้อมทั้งกุฏิ เสนาสนะทั่ววัด และทรงยกย่องให้เป็นวัดหลวงชั้นที่ 1
ความสำคัญของวัดหงส์ เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยเศรษฐีชาวจีนชื่อ “หงส์” ต่อมาสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้ทรงรับวัดนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ และสถาปนาวัดนี้ให้เป็นวัดหลวง เป็นวัดสำคัญทางการศึกษาพระพุทธศาสนา มีพระจำนวนมากจำพรรษา โดยพระอุโบสถ เป็นพระอุโบสถมีขนาดใหญ่ที่สุดในฝั่งธนบุรี มีช่อฟ้าใบระกา ตกแต่งหน้าบันด้วยลวดลายสวยงาม ที่หน้าบันทั้งด้านหน้าและด้านหลังพระอุโบสถ มีพระนารายณ์ทรงหงส์อ่อนช้อยงดงามมาก พระประธาน มีนามว่า หลวงพ่อแสน หรือ พระแสนเมืองเชียงแตง พระพุทธรูปศิลปะล้านช้างอีกองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ข้าหลวงอัญเชิญมาจากเมืองเชียงแตงเมื่อ พ.ศ. 2401
ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาต่าง ๆ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร มีการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา โดยชาวฝั่งธนบุรีทั้งหลายจะเดินทางไปทำบุญ สวดมนต์ และเวียนเทียน