เปิดนโยบาย “โคตรมหาประชานิยม” เลือกตั้ง 66

เปิดนโยบายโคตรมหาประชานิยม เลือกตั้ง 66
หลายพรรคการเมือง เริ่มแง้มนโยบายที่จะใช้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าบ้างแล้ว แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่หลายนโยบายที่แง้มออกมา ก็เป็นที่สนใจของสื่อมวลชน
พรรคเพื่อไทย

สำหรับพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีการเปิดนโยบายอย่างเป็นทางการ แต่มีการประกาศหลักการแนวนโยบายเบื้องต้นแล้ว คือ เป้าหมาย 5 ข้อ
1. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจสู่ระดับประชาชน
โดยแพทองธาน ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศว่า พรรคไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว ด้วยการจัดงบประมาณภาคประชาชนลงไปในระดับหมู่บ้านให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกัน ผลที่ตามมาจะทำให้กระทรวงต่างๆ เล็กลง ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนปัจจุบัน
2. ดึงศักยภาพคนไทยด้วยการใช้ซอฟต์เพาเวอร์ 1 คนต่อ 1 ครอบครัว
อุ๊งอิ๊ง บอกว่า พรรคเชื่อมั่นศักยภาพคนไทย ซึ่งถูกกดให้ไม่มีโอกาสพัฒนาศักยภาพมานาน จากนี้เตรียมจัดให้มีระบบค้นหาศักยภาพคนไทยให้ได้อย่างน้อย 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว ประมาณ 16 ล้านครอบครัว เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพ เป็นหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้หายจน
3. ใช้เทคโนโลยีเอไอเพื่อการเกษตร ให้เกิดการวิเคราะห์แม่นยำและผลผลิตสูง ศึกษาดิน น้ำ ลมฟ้าอากาศ ด้วยเทคโนโลยีเอไอ ลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง
4. ปรับเปลี่ยนภาครัฐและภาคเอกชนด้วยระบบดิจิตอล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ครั้งใหญ่ จัดให้มีรัฐบาลดิจิตอล เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ได้จริง เพื่อแก้ปัญหาระบบราชการใหญ่โต คอร์รัปชั่น และขาดประสิทธิภาพ
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เล่าว่า ระบบราชการไทยต้องเป็นใช้กระดาษลดลง ให้บริการประชาชนผ่านระบบแอพพลิเคชั่น ทำการตลาดแบบอีคอมเมิร์ซ ฟื้นคืนชีวิตให้สินค้าโอท็อป กลับมามีคุณภาพที่เป็นสากล จะทำให้ขายดียิ่งกว่าสมัยพรรคไทยรักไทย
5. เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุคเมตาเวิร์ส โลกเสมือนจริงจะนำโลกที่เป็นจริง ประกอบด้วยสกุลเงินดิจิตอลที่แสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ รวมถึงเกมและอี-สปอร์ต เพื่อพัฒนาทักษะเด็กและเยาวชน ตลอดจนเทคโนโลยีเออาร์ และวีอาร์
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายเพื่อให้เกษตกรหายจน มีหลักทำงานคือ ดินนำ น้ำดี มีต้นพันธุ์ ยืนยันราคา จัดหาแหล่งทุน สนับสนุนกรรมสิทธิ์ มีเป้าเปลี่ยนผืนแผ่นดินเดิมจากที่เคยสร้างรายได้ 10,000 บาท/ไร่/ปี เพิ่มเป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี ประชาชนไทยทุกคน ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์
พรรคภูมิใจไทย

พรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย สร้างผลงานได้เป็นอย่างดีในช่วง 3 ปี กว่าที่ผ่านมา ล่าสุดผลัดดันการปลอดดอกเบี้ย กยศ.ได้สำเร็จตามที่ประกาศหาเสียงเอาไว้ แม้จะขัดกับมติพรรคร่วมรัฐบาล ก็ตาม
เพื่อเตรียมการเลือกตั้งใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศนโยบายเบื้องต้นดังนี้
1.การให้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบหยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เท่ากับเวลาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด โดยรวมหนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ใช้สิทธิได้ทั้งหมด ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้
2.จะผลักดันภาษีบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคน บริษัทห้างร้านทุกบริษัทที่เสียภาษี มีสิทธิกำหนดให้ภาษีที่ตัวเองจ่าย อย่างน้อยร้อยละ 30 ถูกนำไปใช้พัฒนา แก้ปัญหาให้กับท้องถิ่นที่ตัวเองต้องการ จะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจ่ายภาษีแล้ว ได้รู้ว่าภาษีของตัวเองเอาไปใช้ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร นอกจากนี้จะมีนโยบายที่
3.ไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ “การไฟฟ้าประชาชน” ใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล จะช่วยทุกครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาล และลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อเดือน ที่สำคัญคือช่วยให้รัฐบาลลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ
4.พัฒนาอสม. เป็น สมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม.
พรรคเสรีรวมไทย

เป็นที่ฮือฮา เมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประกาศขอเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พร้อมชู 6 นโยบายเด่น ประกอบด้วย
1)ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
2)เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี
3)ยกเลิกหนี้ กยศ. ย้ำว่า ยกเลิก
4)บำนาญ 65 ปีขึ้นไปรับ 3,000 บาท/เดือน
5)เบี้ยผู้พิการ 3,000 บาท/เดือน
6)บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ
พรรคไทยสร้างไทย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ประกาศเป้าหมายหลักในการเปลี่ยนประเทศ คือ การสร้างคนไทยทุกคนให้มีคุณภาพ อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ มีคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่เกิดจนแก่ โดยมีนโยบาย เช่น
-การผลักดัน โครงการ 30 บาทสุขภาพดีถ้วนหน้า
-เรียนฟรีจบปริญญาตรี ลดเวลาเรียน เพิ่มคุณภาพการศึกษา
-โครงการบำนาญประชาชนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย คนละ 3,000 บาทเดือน
-กองทุนเครดิตประชาชนหรือกองทุนคนตัวเล็ก เพื่อช่วยให้คนตัวเล็กที่ไม่ได้อยู่ในระบบธนาคาร เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน เพื่อล้างหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยแพงมหาโหด
พรรคสร้างอนาคตไทย

พรรคสร้างอนาคตไทย นำโดยนายอุตตม สาวนายน มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานพรรค ประกาศพันธกิจรีเซ็ตประเทศไทย 5 สร้าง คือ
1. สร้างเศรษฐกิจฐานราก เริ่มจากชุมชนต้องเข้มแข็ง
2. สร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
3. สร้างสังคมเกื้อกูล ความสามัคคี การช่วยเหลือดูแลกัน ที่ย่อมเป็นพื้นฐานของการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน,
4.สร้างคน และโครงสร้างพื้นฐาน ที่สนับสนุนก้าวสู่สังคมที่ก้าวทันโลก
และ 5. สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศ
ประกาศตั้งกองทุนสร้างอนาคตประเทศไทย วงเงิน 3 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1 แสนล้านบาทเพื่อช่วยคนตัวเล็ก โดยการปลดแอกหนี้สิน พักชำระเงินต้น และดอกเบี้ย ซึ่งสามารถทำได้ถึง 5 ปีขึ้นไป โดยต้องทำให้เป็นจริงเป็นจัง ไม่ให้วนกลับมาในวงจรหนี้อีก แต่ต้องประกอบกับการที่ภาครัฐและคนเอกชน ร่วมกันในการเสริมทักษะอาชีพ และเติมทุนใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ เมื่อปรับโครงสร้างหนี้แล้วจะได้ทำมาหาเลี้ยงชีพได้
ขณะที่อีก 2 แสนล้านบาท จะใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก และสร้างเศรษฐกิจใหม่ ขับเคลื่อนการลงทุนกิจกรรมเศรษฐกิจในระดับฐานรากชุมชน ให้เกิดการจ้างงาน การผลิต ในรูปแบบเศรษฐกิจยุคใหม่ ยกระดับภาคการเกษตร และท่องเที่ยว
ส่วนพรรคการเมืองอื่น เช่น พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ก้าวไกล ชาติไทยพัฒนา ฯลฯ ยังไม่มีการประกาศนโยบาย