ลอสแองเจลิสคุมเข้มอีก หลังประกาศเคอร์ฟิว

ตั้งแต่ 30 พ.ย.เป็นต้นไป ทางการลอสแองเจลิสห้ามการรวมกลุ่มกันของพลเมืองเกินหนึ่งครัวเรือนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ภายใต้มาตรการคุมเข้มทางสาธารณสุขใหม่ที่มีการประกาศออกมาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คำสั่งของหน่วยงานสาธารณสุขนี้ยกเว้นเฉพาะพิธีกรรมทางศาสนา และการประท้วงภายใต้รัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องสิทธิตามคำพิพากษาของศาลสูงสหรัฐฯเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ให้ยกเลิกคำสั่งของรัฐนิวยอร์กที่คุมเข้มจำนวนการรวมตัวกันทางศาสนา
มาตรการของลอสแองเจลิส ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประชาชน 20 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองและรอบเมือง (ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ) เป็นการคุมเข้มยิ่งกว่าเดิมหลังมีการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียแกวิน นิวซัม ซึ่งเป็นการหยุดการรวมตัวกันและกิจกรรมที่ไม่สำคัญเกือบทั้งรัฐในระหว่างเวลา 22.00 – 05.00 น.
มาตรการคุมเข้มที่มีทั้งหมด นับเป็นมาตรการรับมือโควิด-19 ที่เข้มงวดสูงสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ลอสแองเจลิส นับตั้งแต่แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่มีการประกาศล็อกดาวน์เดือนมี.ค. ในช่วงแรกของการระบาด
ทางการรัฐและทางการท้องถิ่นในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาคุมเข้ม หรือจำกัดกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วประเทศหลังจากช่วงฤดูร้อน
ผู้นำทางการเมือง รวมทั้งโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ และผู้บริหารด้านสาธารณสุขต่างออกมาขอความร่วมมือให้ชาวอเมริกันอยู่บ้าน หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกัน และงดการช้อปปิ้งก่อนเทศกาลคริสต์มาสในระหว่างที่ยังไม่มีวัคซีนให้ใช้
หน่วยงานสาธารณสุขของลอสแองเจลิสระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันพุ่งสูงถึง 4,500 รายต่อเนื่องกัน 5 วันแล้ว ทำให้ต้องมีการประกาศมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ภายใต้กฎหมายใหม่ ซึ่งจะมีผลถึง 20 ธ.ค. มีการแนะนำ (ไม่ได้บังคับ) ให้พลเมืองอยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อออกนอกบ้าน และเมื่ออยู่กับคนอื่น แต่ห้ามการอยู่รวมกันเกินหนึ่งครัวเรือน ทั้งในสถานที่สาธารณะและส่วนตัว ไม่ว่าจะนอกหรือในอาคาร คำสั่งล่าสุดยังอนุญาตให้มีกิจกรรมเชิงพาณิชย์ได้บ้าง แต่ลดจำนวนคนลง
โดยให้ลดความหนาแน่นของจำนวนคนในธุรกิจค้าปลีกสำคัญ สำหรับร้านขายของชำ ให้ลดลงเหลือ 35% ขณะที่สถานที่ค้าปลีกไม่จำเป็น เช่น ในห้างสรรพสินค้า และร้านทำเล็บต้องลดจำนวนลูกค้าลงเหลือ 20%
ชายหาด สวนสาธารณะ ยังคงเปิดได้ ตราบเท่าที่แต่ละคนมีการเว้นระยะห่างจากกัน และสวมหน้ากากอนามัย เช่นเดียวกับสนามกอล์ฟ สนามเทนนิส ลานเล่นสเก็ต
บริการในอาคารและนอกอาคารทั้งหมด ทั้งบาร์ ร้านอาหาร ร้านไวน์และโรงเบียร์ ยังคงปิดภายใต้คำสั่งก่อนหน้านี้ที่ให้มีแต่บริการสั่งกลับบ้านและเดลิเวรีเท่านั้น
หน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศเตือนว่าการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลวันหยุดและอากาศที่หนาวขึ้น จะส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิต
จนถึงตอนนี้ มีผู้ติดเชื้อเกือบ 388,000 รายทั่วลอสแองเจลิส รวมถึงมีผู้เสียชีวิตกว่า 7,600 ราย และมีอัตราการติดเชื้อถึง 10% จากผลการตรวจหาเชื้อ สูงกว่าที่หน่วยงานสาธารณสุขระบุว่าเป็นอัตราที่น่ากังวลถึงสองเท่า