ยอดบินเพิ่มขึ้นสวนทางคำสั่งแบนสหรัฐฯ
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศหรือ IATA รายงานว่า อัตราผู้ที่ต้องการโดยสารเครื่องบินเพิ่มสูงขึ้นกว่า 4.8% ในเดือน ก.พ.
เป็นผลพวงมาจากราคาตั๋วที่ลดลงและเศรษฐกิจในด้านอุตสาหกรรมการบินมีสภาพดีขึ้น ไม่ได้รับผลกระทบจากการแบนชาติมุสลิมไม่ให้เดินทางเข้าไปยังสหรัฐฯ แต่อย่างใด
หน่วยงานการท่องเที่ยวออกเตือนว่าการเดือนทางไปยังสหรัฐฯ จะชะลอตัวในปีนี้ เนื่องมาจากสถานการณ์ภายในประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยว
นายอเล็กซานเดอร์ เดอ จูนีแอค ผู้บริหาร IATA กล่าวว่า “ แม้ว่าเราจะยังคงให้ความสำคัญและเฝ้าระวังเกี่ยวกับผลกระทบที่จะมาจากการแบนประเทศมุสลิม 6 ประเทศ หรือการปิดพรมแดน แต่เรายังไม่พบปัจจัยใด ๆ ที่จะกระทบกับการเดินทางทั่วไป ”
สายการบินสัญชาติตะวันออกกลางที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแบนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับมียอดผู้โดยสารที่สูงขึ้นกว่า 9.5% ในเดือน ก.พ. ซึ่งมีจำนวนสายการบินกว่า 265 สายการบิน คิดเป็น 83% จากสายการบินทั่วโลก
นายอเล็กซานเดอร์ยังได้กล่าววิจารณ์ข้อบังคับ การแบนไม่ให้ผู้โดยสารนำเครื่องมืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยสารไปบนห้องโดยสาร ซึ่งยังมีการกำหนดเที่ยวบินเจาะจงจากบางประเทศ ถือเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมการบินอีกด้วย
โดยเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้โดยสารนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนบินเข้าสหรัฐฯ ทั้งนี้ยังแนบรายชื่อประเทศตะวันออกกลางที่เจาะจงออกมา 8 ประเทศได้แก่ จอร์แดน อียิปต์ ตุรกี คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ โมร็อกโค และ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
“ การห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนขึ้นห้องโดยสาร ถือเป็นการปล่อยโอกาสต่างๆ ให้หลุดมือไป และผลที่ตามมาคือมาตรการที่ไม่สามารถรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในระยะยาวได้อีก ”
ผู้ควบคุมการบินของยุโรปกล่าวเมื่อวันที่ 5 เม.ย. โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะมีกรณีเพลิงไหม้ของแบตเตอรี่ในการเก็บของสัมภาระใต้ท้องเครื่อง เนื่องมาจากการแบนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของอุตสาหกรรมการบินมีความจุโดยสารเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือน ก.พ. ทำให้โหลดแฟกเตอร์ หรือหน่วยวัดความหนาแน่นในเครื่องบิน สูงขึ้นกว่า 1.6% ไปเป็น 79.5% ถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
ค่าโดยสารที่ถูกลงสร้างความกดดันให้กับรายได้ของแต่ละสายการบินในเดือนที่ผ่านๆ มา และทาง IATA ยังกล่าวอีกว่า ค่าโดยสารทั่วโลกนั้นลดลงมากกว่า 10% ในช่วงปีที่ผ่านมา.