โคลอมเบียประกาศภาวะฉุกเฉินหลังโคลนถล่ม
ประธานาธิบดีแห่งโคลอมเบียประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ สังคมและระบบนิเวศหลังเหตุการณ์โคลนถล่มครั้งรุนแรง
โดยฮวน มานูเอล ซานโตสกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณจำนวน 40,000 ล้านเปโซ (13.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นลำดับแรก
ในขณะเดียวกัน จะมีการประกอบพิธีศพให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 262 คนที่ถูกคร่าชีวิตเมื่อวันที่ 1 เม.ย.จากเหตุการณ์โคลนถล่ม แต่ยังคงมีปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตอยู่ต่อไป
สภากาชาดกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ยังคงมีการตามหาผู้รอดชีวิตใน 72 ชั่วโมง หลังจากเหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความหวังค่อยๆ เลือนลางลง เนื่องจากประชาชนสิ้นหวังที่จะตามมหาสมาชิกในครอบครัวที่ถูกซัดเข้าไปอยู่ในวังวนของโคลน หิน และเศษซากซึ่งถล่มเมือง Mocoa ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโคลอมเบียและมีจำนวนประชากรประมาณ 40,000 คน
โดยมีน้ำท่วมเกิดขึ้นหลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักในตอนกลางคืน ซึ่งเพิ่มระดับน้ำในแม่น้ำ Mocoa และสาขาย่อยของแม่น้ำอย่างรวดเร็ว และกวาดเอาพื้นที่บริเวณใกล้เคียงไปหมด
เออร์ซีย์ โลเปซ วัย 39 ปี ซึ่งรอดชีวิตด้วยการหนีไปอยู่บนต้นไม้ กล่าวว่าผู้คนยังคงช่วยตามหาไดอานา วาเนซาลูกสาววัย 22 ปีของเธอ แต่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “ ความหวังที่จะพบว่าลูกสาวมีชีวิตรอดริบหรี่ลงมาก ” ประชาชนที่ได้รับผลกระทบยังคงรอคอยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอยู่
สื่อซึ่งรายงานเป็นภาษาสเปนอย่าง El Espectador รายงานว่า มีความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านมุษยธรรมอย่างน้อย 40 ตันที่กำลังเดินทางไปที่เมือง รวมถึงอุปกรณ์ทำอาหารและเต็นท์ 1,000 หลัง
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีซานโตสกล่าวว่า ได้ดำเนินการส่งผ้าห่ม 7,000 ผินและเสื่อปูนอน 6,000 ชิ้นออกไปแล้ว อ้างอิงจากการรายงานของสื่อ El Pais (เป็นภาษาสเปน)
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. กลุ่มกบฎฟาร์กของโคลอมเบียเสนอให้ความช่วยเหลือในการซ่อมแซมเมือง แต่ข้อเสนอยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล
ผู้นำโคลอมเบียสัญญาจะใช้งบประมาณเพื่อปรับปรุงให้เมือง Mocoa ดีขึ้นกว่าเดิม และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหลุยส์ คาร์สอส วิลเลกัสเป็นผู้รับผิดชอบในการบูรณะเมือง.