ทรัมป์-ปูตินสานสัมพันธ์กันใหม่
นายโดนัลด์ ทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียให้กลับมาเป็นปกติ อ้างอิงจากทางรัสเซีย หลังจากการพูดโทรศัพท์คุยกันของทั้งสองคน
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินอวยพรให้นายทรัมป์ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ส่วนนายทรัมป์เคยกล่าวยกย่องประธานาธิบดีปูตินในระหว่างการหาเสียง และต้องการสานความสัมพันธ์กับรัสเซียให้กลับมาเหมือนเดิม
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า นายทรัมป์ได้ให้คำมั่นกับเขาว่า จะคงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับนาโตต่อไป
โดยทางรัสเซียเปิดเผยว่า นายทรัมป์และประธานาธิบดีปูตินได้พูดคุยกันเรื่องซีเรียและเห็นพ้องว่า ความสัมพันธ์ของรัสเซีย-สหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่น่าพึงพอใจอย่างที่สุด
นอกจากนี้ ทั้งสองคนได้พูดคุยเกี่ยวกับความจริงว่า ปี 2560 จะเป็นปีที่ครบรอบ 210 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศที่ควรจะกลับมาสู่ระดับปกติ ซึ่งความร่วมมือกันจะนำผลประโยชน์มาให้
ทั้งประธานาธิบดีปูตินและนายทรัมป์ยังตกลงที่จะมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์อีก และจะกำหนดวันที่จะพบปะพูดคุยกันอีกในภายหลัง อ้างอิงจากข้อมูลของทางรัสเซีย แต่ไม่มีรายงานว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ที่เริ่มต้นโทรศัพท์มาหาก่อน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายทีมทำงานของทรัมป์กล่าวว่า ทางรัสเซียเป็นฝ่ายโทรศัพท์มาก่อน และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นเรื่องภัยคุกคาม ความท้าทาย และยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ
นายสตีฟ โรเซนเบิร์ก ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวบีบีซีในรัสเซียรายงานว่า ในสายตาของชาวรัสเซีย ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เป็นนักปฏิบัติ นักธุรกิจที่โผงผาง อารมณ์ร้อน ซึ่งรัสเซียสามารถทำธุรกิจด้วยได้
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศย่ำแย่ในช่วงหลายปีนี้ ถึงแม้ประธานาธิบดีโอบามาจะเคยกล่าวในช่วงรับตำแหน่งผู้นำเมื่อ 8 ปีก่อนว่าจะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับรัสเซียใหม่หมด ในขณะที่รัสเซียและสหรัฐฯ จัดการที่จะทำงานร่วมกันในประเด็นของเกาหลีเหนือและอิหร่าน แต่ก็ยังคงมีความขัดแย้งกันในซีเรีย
โดยประธานาธิบดีโอบามายังได้ประณามการแทรกแซงของรัสเซียที่เข้าช่วยเหลือฝ่ายที่เชิดชูรัสเซียในยูเครนตะวันออก ขณะที่รัสเซียตัดสินใจให้ที่ลี้ภัยกับนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ออกมาเปิดโปงสหรัฐฯ เรื่องซีไอเอ
ประธานาธิบดีโอบามาและนายทรัมป์ได้มีการพบปะกันในสัปดาห์ที่แล้ว และในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ประธานาธิบดีโอบามาได้กล่าวว่า ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีสนใจที่จะคงยุทธศาสตร์สำคัญในนโยบายความสัมพันธ์หลักของประเทศ รวมถึงกับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกลุ่มนาโต
โดยเขากล่าวว่า ยังมีภาระหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องสานต่ออีกเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าสหรัฐฯ จะยังคงเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งและเป็นความหวังของผู้คนทั่วโลก
นายโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้าทำเนียบขาวเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า.