‘ปูติน’ ประกาศรัสเซียมีวัคซีนโควิด-19 ที่แรกในโลก
มอสโก (CNN) – เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียประกาศการอนุมัติวัคซีนไวรัสโคโรนาเพื่อการใช้งาน โดยอ้างว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกในโลก ท่ามกลางความกังวลและก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมีประสิทธิภาพของวัคซีน
“วัคซีนต้านไวรัสโคโรนาได้รับการจดทะเบียนเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อเช้านี้” ประธานาธิบดีปูตินระบุในการแถลงทางโทรทัศน์ “ ผมทราบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ และสร้างภูมิคุ้มกันที่เสถียร”
“ผมหวังว่าทีมทำงานผู้พัฒนาวัคซีนเช่นเดียวกับเราในต่างประเทศจะมีความก้าวหน้าเช่นเดียวกัน และจะมีวัคซีนในตลาดนานาชาติที่พร้อมใช้งาน ”
วัคซีนนี้ ซึ่งพัฒนาโดย Gamaleya Institute ในกรุงมอสโก มีชื่อเรียกว่า Sputnik-V ซึ่งเป็นชื่อที่อ้างถึงการปล่อยดาวเทียมดวงแรกของโลก Sputnik จากสหภาพโซเวียตที่สร้างความเซอร์ไพรส์ไปทั่วโลกในปี 2500
โดยวัคซีนนี้ผ่านการทดสอบในเฟส 3 ซึ่งมีการฉีดให้กับอาสาสมัครหลายพันคน
ปูตินเสริมว่า ลูกสาวคนหนึ่งของเขาได้รับการฉีดวัคซีนนี้แล้ว และเธอมีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อยหลังฉีดแต่ละเข็ม แต่ “ ตอนนี้ เธอสบายดี”
การประกาศชัยชนะโดยปูตินมีขึ้นในช่วงที่ทั่วโลกกำลังเร่งผลักดันเพื่อการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 และมีหลายความเห็นที่ระบุว่ารัสเซียทำการพัฒนาอย่างลวกๆ
โดยนักวิจารณ์ระบุว่า การผลักดันเพื่อการพัฒนาวัคซีนของรัสเซียบางส่วนเกิดจากแรงกดดันทางการเมืองจากรัฐบาล ซึ่งต้องการหนุนให้รัสเซียเป็นประเทศมหาอำนาจสำคัญของโลก
ที่ผ่านมา รัสเซียไม่เคยเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของการทดสอบ และสื่อยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน
อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียให้สัมภาษณ์สื่อว่า มีอย่างน้อย 20 ประเทศ และหลายบริษัทในสหรัฐฯ ที่แสดงความสนใจในวัคซีนนี้
รัสเซียเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่เร่งผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งตอนนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 20 ล้านรายและทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 730,000 รายทั่วโลก
ในเดือนมิ.ย. รัฐบาลจีนอนุมัติการใช้งานวัคซีนไวรัสโคโรนาเพื่อการทดสอบในกองทัพของประเทศ โดยวัคซีน มีชื่อเรียกว่า Ad5-nCoV เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพปักกิ่ง ( ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันแพทย์ทหารของรัฐบาล) และบริษัทผลิตวัคซีน CanSino Biologics
ก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนส.ค. รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่า รัสเซียแฮกผลวิจัยในห้องแล็บของทั้งสหรัฐฯ แคนาดา และสหราชอาณาจักรเพื่อขโมยความลับในการพัฒนาวัคซีน