ญี่ปุ่นเกินดุลครั้งใหญ่ในรอบ 9 ปี
ญี่ปุ่นโพสต์รายงานบัญชีเดินสะพัดเกินดุลในช่วงเดือนม.ค.- มิ.ย.ที่มีจำนวนมากที่สุด นับตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2550 เป็นต้นมา จากการลดลงของมูลค่าการนำเข้า
ที่มีสาเหตุสำคัญคือราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หนุนการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นให้เติบโตเกินคาด อ้างอิงจากการรายงานของรัฐบาลเมื่อวันที่ 8 ส.ค.
โดยตัวเลขเกินดุลของญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 31.3% มาอยู่ที่ 10.63 ล้านล้านเยน นับเป็นการเกินดุลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การล่มสลายของกลุ่มบริษัทเลห์แมน บราเธอร์ในปี 2551 อ้างอิงจากข้อมูลของรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลังของญี่ปุ่น
หลายปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศในปริมาณมาก หลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในฟูกุชิมะได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในเดือนมี.ค.2554 ทำให้ต้องปิดตัวลงจากความกังลของภาคเอกชนส่วนใหญ่ในเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตประชาชน
ทั้งนี้ ความสมดุลของบัญชีเดินสะพัดในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในมาตรวัดมูลค่าการค้าของประเทศกับนานาชาติที่มีคุณภาพ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรายงานว่า ความสมดุลของการค้าสินค้าทำให้ญี่ปุ่นมีการเกินดุลการค้าสูงถึง 2.35 ล้านล้านเยน พลิกฟื้นจากการขาดดุลการค้าสูงถึง 375,400 ล้านเยนในปี 2558 โดยตัวเลขการส่งออกปรับลดลง 10.8% ขณะที่การนำเข้าก็ดิ่งลงถึง 17.8 % จากปีที่ผ่านมา
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ การเกินดุลในบัญชีรายได้ปฐมภูมิ ( ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ญี่ปุ่นมีรายได้จากการลงทุนของต่างชาติมากเพียงใด) ลดลงมา 7.9% มาอยู่ที่ 9.61 ล้านล้านเยน เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นส่งผลต่อผลกำไรในเงินลงทุนจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ แรงหนุนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือ การมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีการขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้จากการท่องเที่ยวหนุนให้ประเทศมีตัวเลขเกินดุลสูงถึง 775,800 ล้านเยน ซึ่งนับว่าสูงที่สุด จากข้อมูลเปรียบเทียบรายปีที่เริ่มต้นตั้งแต่ในปี 2539 เป็นต้นมา
ในส่วนภาคบริการ ซึ่งรวมถึงการเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าทางอากาศ มีตัวเลขขาดดุลอยู่ที่ 209,900 ล้านเยน ลดลงจากตัวเลขเดิมที่เคยขาดดุลสูงถึง 933,300 ล้านเยนในปี 2558
โดยข้อมูลในเดือนมิ.ย.ช่วยหนุนให้ญี่ปุ่นมีตัวเลขบัญชีเดินสะพัดเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 24 แล้วด้วยตัวเลขสมดุลอยู่ที่ 974,400 ล้านเยน ยอดการค้าสินค้าเกินดุลสูงถึง 763,600 ล้านเยน.