ญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉิน 7 จังหวัด
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งจะมีผลครอบคลุมจังหวัดโตเกียว โอซาก้า และอีก 5 จังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยโควิด – 19 มากขึ้น เพื่อมอบอำนาจให้ทุกจังหวัดออกมาตรการดูแลประชาชนที่เข้มงวดขึ้น
โดยนายกฯอาเบะให้อำนาจ 7 จังหวัดสามารถออกมาตรการฉุกเฉินได้ โดยคำประกาศภาวะฉุกเฉินครอบคลุมจังหวัดโตเกียว โอซาก้า คานากาวะ ไซตามะ ชิบะ เฮียวโกะและฟุกุโอกะ เขาระบุในการแถลงข่าวที่สำนักนายกฯ
“ คำประกาศนี้จะมีผลนาน 1 เดือน” อาเบะกล่าว “ การประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อให้แน่ใจว่าระบบสาธารณสุขจะได้รับความร่วมมือจากประชาชนเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้”
เขายังระบุว่า รัฐบาลจะเสนอเงินงบประมาณกว่า 6 ล้านล้านเยน เพื่อเป็นความช่วยเหลือเยียวยาโดยตรงถึงประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 205 รายในวันที่ 6 เม.ย.ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 4,041 ราย โดยไม่ได้นับจำนวนผู้ป่วยในเรือไดมอนด์พรินเซสที่เทียบท่าในโยโกฮามาตลอดเดือนก.พ.
และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 4 รายทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 108 ราย
โดยกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด -19 ในญี่ปุ่น รายงานผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 83 รายในวันที่ 6 เม.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าสองวันก่อน คือ 117 รายในวันที่ 4 เม.ย. และ 143 รายในวันที่ 5 เม.ย. โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อในวันที่ 5 เม.ย.เป็นตัวเลขสูงที่สุดในวันเดียว
สมาคมการแพทย์กรุงโตเกียวได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเมื่อวันที่ 6 เม.ย.เพื่อเป็นการเตือนว่าระบบสาธารณสุขอาจทรุดลงได้จากจำนวนผู้ป่วยจำนวนมากในกรุงโตเกียว
ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา มีเสียงเรียกร้องให้นายกฯอาเบะประกาศภาวะฉุกเฉิน ทั้งจากดร.โยชิทาเกะ โยโกคุระ ผอ.สมาคมการแพทย์ญี่ปุ่น ที่ออกโรงเตือนว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง
อย่างไรก็ตาม การประกาศภาวะฉุกเฉินจะไม่นำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์เหมือนในสหรัฐฯและยุโรป
หลังการประกาศ ผู้ว่าราชการ 5 จังหวัดนี้มีอำนาจในการขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้าน ยกเว้นแต่การออกไปทำงานสำคัญ หรือทำธุระจำเป็น เช่น ซื้ออาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกลุ่มนี้ยังสามารถขอให้มีการปิดโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงภาพยนตร์และสถานที่สาธารณะอื่นได้เป็นการชั่วคราวอีกด้วย
และในกรณีที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ผู้ว่าฯสามารถสั่งให้มีการสร้างโรงพยาบาลสนามได้และมีอำนาจบังคับหากเจ้าของพื้นที่ไม่ยินยอม
ผู้ว่าฯยังมีอำนาจในการสั่งให้ซัพพลายเออร์ด้านการแพทย์และอาหารขายสินค้าให้ภาครัฐ หากซัพพลายเออร์ปฏิเสธ ผู้ว่าฯมีอำนาจในการบังคับให้จัดหาให้ได้
ก่อนหน้าการประกาศภาวะฉุกเฉิน คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินทางเศรษฐกิจที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 108 ล้านล้านเยน
โดยเมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายกฯอาเบะระบุว่า รัฐบาลจะสนับสนุนศักยภาพของประเทศสำหรับการตรวจทดสอบด้วยเทคนิค PCR เป็น 20,000 ตัวอย่างต่อวัน, เพิ่มเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยอาการวิกฤตจาก 28,000 เตียงเป็น 50,000 เตียง , จัดหาเครื่องช่วยหายใจ 15,000 เครื่องเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และผลักดันผู้ผลิตให้เพิ่มกำลังการผลิต.