สหรัฐฯ คุมเดินทางประเทศเสี่ยงไวรัส หลังดับรายแรก
วอชิงตัน – เมื่อวันที่ 29 ก.พ. สหรัฐฯ จำกัดการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงจากโควิด-19 โดยประกาศห้ามเดินทางไปอิหร่าน และยกระดับเตือนภัยการเดินทางไปเกาหลีใต้และอิตาลี เนื่องจากชายคนหนึ่งในรัฐวอชิงตันกลายเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกในสหรัฐฯหลังจากติดเชื้อไวรัส
โดยผู้ป่วยชายรายนี้อายุ 50 ปีกว่า และไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ หรือติดต่อสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด – 19 จากรายงานของสาธารณสุขเขตคิงเคาน์ตี ซีแอตเทิล แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่าเป็นผู้ป่วยหญิงในการแถลงข่าวก่อนหน้านี้
รัฐวอชิงตันประกาศภาวะฉุกเฉิน และเจย์ อินสลี ผู้ว่าการรัฐระบุว่า ทางการได้พิจารณายกเลิกการแข่งขันกีฬา ปิดโรงเรียน และใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส
สหรัฐฯเริ่มมีการระบาดในระดับชุมชนในประเทศ โดยมีการยืนยันผู้ติดเชื้ออีก 3 รายในรัฐแคลิฟอร์เนีย วอชิงตันและโอเรกอน โดยไม่มีแหล่งที่มาของการติดเชื้อ หรือประวัติการเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของไวรัส
จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 68 ราย ซึ่งรวมทั้งผู้ที่อพยพกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นในจีน และจากเรือสำราญไดมอนพรินเซส
ประธานาธิบดีทรัมป์และผู้บริหารด้านสาธารณสุขระบุว่า จะมีการระบาดอีกหลายราย แต่ความเสี่ยงกับชาวอเมริกันยังคงต่ำอยู่ โดยขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และออกไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
“มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ แต่สาธารณสุขสามารถดูแลรักษาให้หายได้ ” ทรัมป์กล่าว
รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้รับผิดชอบกับการระบาดในประเทศระบุว่า สหรัฐฯมีหน้ากาก 43 ล้านชิ้น ซึ่งเพียงพอที่จะปกป้องผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีสัญญาผลิตหน้ากากเพิ่มอีก 35 ล้านชิ้นต่อเดือน
“ ชาวอเมริกันทั่วไปไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อหน้ากาก ” เขากล่าว ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีคนแห่กันไปซื้อกระดาษชำระ น้ำดื่มบรรจุขวด และเจลล้างมือในฮาวาย ซึ่งมีการนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ทั้งอาหารและสินค้า
เพนซ์ระบุว่า คำสั่งห้ามเดินทางเข้าประเทศครอบคลุมพลเมืองทุกชาติที่เดินทางไปอิหร่านในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ทางกระทรวงต่างประเทศยังแนะนำชาวอเมริกันไม่ให้เดินทางไปอิตาลีและเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสมากที่สุด โดยยกระดับการเตือนภัยในการเดินทางเป็นระดับสูงสุด
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 29 ก.พ.องค์การอาหารและยา (FDA) ได้สั่งการให้แล็บทั่วประเทศพัฒนาการทดสอบไวรัสโควิด-19 ของตัวเอง โดยลดขั้นตอนความยุ่งยากทั้งหมดเพื่อให้มีการตรวจสอบและแสดงผลภายในไม่กี่ชั่วโมง แทนที่จะเป็น 1 – 2 วันเหมือนเดิม
โดยศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ยังได้ขยายเกณฑ์ให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจสอบ
“ผู้ป่วยรายแรกๆในสหรัฐฯ เป็นผู้ที่เดินทางไปจีน เพราะนักเดินทางกลับมาจากจีนเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจสอบ ที่เราทำได้ดีในการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพราะเราได้ขยายเกณฑ์การตรวจสอบ” เจนนิเฟอร์ นัซโซ นักระบาดวิทยาของ John Hopkins Centre for Health Security โพสต์บนทวิตเตอร์