เกาหลีใต้อ่วม ติดเชื้อทะลุ 833 ราย
โซล (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 24 ก.พ. กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ถึง 161 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 833 ราย เพียงหนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีมุนแจอินประกาศยกระดับการเตือนภัยโรคติดต่อเป็นระดับสูงสุด
จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ มี 115 รายที่เชื่อมโยงกับลัทธินอกรีตในเมืองแทกู โดยมีต้นตอมาจากผู้ป่วยหญิงวัย 61 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ ‘ผู้ป่วยรายที่ 31’ เธอเข้าร่วมพิธีในโบสถ์หลายครั้งก่อนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (KCDC)
โดย KCDC ยังรายงานผู้เสียชีวิตรายที่ 7 จากไวรัส ซึ่งเป็นชายวัย 62 ปีจากรพ.ในชองโด เขตที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับเมืองแทกูในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางการยังคงสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการระบาดครั้งใหม่นี้ เนื่องจากผู้ป่วยรายที่ 31 ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. เกาหลีใต้ประกาศยกระดับการเตือนภัยโรคติดเชื้อในระดับสูงสุดและมีการจำกัดกิจกรรมสาธารณะ
มีการระงับกิจกรรมของโบสถ์คาธอลิกในเมืองแทกู และกวางจู และการรวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะที่โบสถ์ในเมืองอื่น มีผู้เข้าร่วมพิธีน้อยลงในวันที่ 23 ก.พ. โดยเฉพาะบรรดาผู้สูงอายุ
ประธานาธิบดีมุนแจอินระบุว่า ทางการยกระดับการเตือนภัยโรคติดต่อเป็นระดับสูงสุด โดยให้ทางการส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมไปที่เมืองแทกูและเชตชองโด ซึ่งกลายเป็นเขตจัดการพิเศษสองแห่งตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ประกาศเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสในโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือของบริษัท ทำให้บริษัทต้องปิดโรงงานจนถึงวันที่ 24 ก.พ. อย่างไรก็ตาม โรงงานที่มีผู้ติดเชื้อผลิตโทรศัพท์มือถือในอัตราส่วนไม่สูงมาก หุ้นของซัมซุงลดต่ำลงกว่า 2.5% ในการซื้อขายช่วงเช้า
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับลดลง 3.1% ในการซื้อขายช่วงบ่าย ราคาหุ้นของฮุนไดมอเตอร์ร่วงลง 3.9% ขณะที่ Kosdaq ลดลง 3.25% โดยหุ้นของสายการบินโคเรียนแอร์ และเอเชียนาแอร์ไลน์ก็ปรับลดลง 5.52% และ 5.54% ตามลำดับ ขณะที่เงินวอนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1,217.85 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ