GM ถอนตัวจากไทย
บริษัทเจเนรัลมอเตอร์ (GM) ประกาศแผนถอนตัวจากประเทศไทย โดยจะไม่มีการจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ ‘เชฟโรเลต’ อีกภายในสิ้นปีนี้ และขายโรงงานประกอบรถยนต์ในไทยให้กับ Great Wall Motors ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากจีน
โดยทาง GM ระบุว่า คาดการณ์ว่าจะใช้งบจำนวน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 34,474 ล้านบาท ) ส่วนใหญ่ในไตรมาสแรกจากผลการดำเนินการตามแผนนี้ โดยเป็นเงินสดจำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับประเทศไทย การปรับโครงสร้างของบริษัทครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับการจ้างงานพนักงานประมาณ 1,500 อัตรา
แมรี บาร์รา ประธานและซีอีโอของ GM ระบุว่า แผนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างทั่วโลกของบริษัท ซึ่งได้มีการประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2558 แล้ว เพื่อเป็นการมุ่งเน้นที่ตลาดที่ทำกำไรและให้ความสำคัญกับการลงทุนกับการเติบโตของยานยนต์ในอนาคต โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
คำประกาศนี้มีขึ้นหลังจาก GM ยุติการผลิตรถยนต์ในออสเตรเลียเมื่อกว่าสองปีก่อน
ก่อนหน้านี้ ในปี 2560 GM ขายกิจการในยุโรปให้ PSA Group บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส และออกจากตลาดแอฟริกาใต้และตลาดประเทศอื่นในแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีการปรับโครงสร้างการดำเนินการในเกาหลีใต้ และเริ่มยุติ หรือจำกัดการดำเนินการในรัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และประเทศไทย
Great Wall ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ SUV รายใหญ่ที่สุดของจีนระบุว่า จะขายรถยนต์จากฐานการผลิตในไทย ซึ่งมีโรงงานผลิตเครื่องยนต์ด้วย ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย โดยบริษัทเร่งทำยอดขายทั่วโลกเนื่องจากตลาดในจีนชะลอตัว
บริษัทยังลงนามในข้อตกลงซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ของ GM ในอินเดียด้วย ขณะที่คาดการณ์ว่าการทำธุรกรรมซื้อโรงงานในไทยจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2563 นี้
Great Wall มีแนวโน้มต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครองตลาดส่วนใหญ่ในไทย โดยในส่วนของประเทศไทย สามารถผลิตรถยนต์ได้ประมาณ 2 ล้านคันในแต่ละปี และส่งออกไปขายต่างประเทศกว่าครึ่ง
โดย Great Wall อาจพิจารณาผลิตรถกระบะและรถ SUV ในไทย จากแหล่งข่าวของสื่อรอยเตอร์.