ยุโรปหนุนสหรัฐฯชี้อิหร่านโจมตีซาอุฯ
สหประชาชาติ (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 23 ก.ย. สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศสสนับสนุนสหรัฐฯและกล่าวโทษอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย โดยกระตุ้นให้อิหร่านมีการพูดคุยรอบใหม่เรื่องอาวุธนิวเคลียร์และประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคกับกลุ่มประเทศมหาอำนาจ
ประเทศในยุโรปออกแถลงการณ์ร่วมหลังจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสมีการพูดคุยกันนอกรอบในระหว่างการประชุมที่สหประชาชาติ
แต่โมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รมว.กระทรวงต่างประเทศของอิหร่านทวีตข้อความเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะเจรจาทำข้อตกลงใหม่กับกลุ่มประเทศมหาอำนาจ โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ยุโรปไม่สามารถทำตามข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ได้
บรรดาผู้นำยุโรปลำบากใจที่จะต้องช่วยลดความตึงเครียดในการเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปีที่แล้ว ซึ่งยอมให้อิหร่านขายน้ำมันในตลาดโลกได้หากมีการควบคุมโครงการอาวุธนิวเคลียร์
ความตึงเครียดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่มีเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุฯ ซึ่งทางซาอุฯและสหรัฐฯต่างกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน แต่อิหร่านปฏิเสธ ขณะที่กลุ่มฮูติซึ่งเป็นกบฏเยเมนที่มีอิหร่านหนุนหลัง และต่อสู้กับซาอุฯมานานได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีครั้งนี้
“ ชัดเจนว่าอิหร่านต้องรับผิดชอบในการโจมตีครั้งนี้ ไม่มีคำอธิบายอื่นๆที่มีเหตุผลพอ เราสนับสนุนให้มีการสอบสวนเพื่อให้ได้รายละเอียดมากขึ้น” อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีระบุ
ไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวขอบคุณชาติยุโรปสำหรับแถลงการณ์ที่กล่าวโทษอิหร่าน “นี่เป็นการเสริมสร้างนโยบายการทูตและทำให้เกิดสันติ”
ประธานาธิบดีฮัสซาน รูฮานีแห่งอิหร่านกล่าวหลังจากเดินทางถึงนิวยอร์กเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ว่า สารจากอิหร่านที่มีให้กับโลกคือ “ สันติภาพ เสถียรภาพ และเรายังอยากบอกโลกว่าสถานการณ์ในอ่าวเปอร์เชียนั้นอ่อนไหวมาก” สำนักข่าว IRNA ของอิหร่านรายงาน
ทรัมป์อยากประชุมกับผู้นำอิหร่านในระหว่างที่ทั้งสองอยู่ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นิวยอร์กด้วยกัน แต่โอกาสดูจะริบหรี่
“ เรายังไม่ได้รับคำขอให้มีการประชุมในเวลานี้ และเราได้แสดงความชัดเจนแล้วว่าการร้องขออย่างเดียวไม่เกิดผล การเจรจาต้องเป็นไปเพื่อเหตุผล เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่การจับมือ” ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่านกล่าวกับสื่อในนิวยอร์ก.