ญี่ปุ่นล่าวาฬเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในรอบ 31 ปี
เรือล่าวาฬของญี่ปุ่น 2 ลำ เดินทางกลับมายังท่าเรือพร้อมวาฬที่จับได้เป็นครั้งแรก หลังเริ่มการล่าวาฬเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี
เมื่อเช้าของวันที่ 1 ก.ค. เรือทั้ง 5 ลำ ล่องออกจากท่าเรือ โดยนักล่าวาฬ ครอบครัวของพวกเขา และเจ้าหน้าที่ในเมืองชิโมโนะเซกิ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น และเมืองคุชิโระทางเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองล่าวาฬทั้งคู่ ต่างเฉลิมฉลองการเริ่มฤดูล่าวาฬ โดยหวังว่าเหล่านักล่าจะเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย และล่าวาฬได้อย่างที่ตั้งใจไว้
ภายในวันเดียวกันเอง วาฬมิงค์ 2 ตัว ถูกพากลับมายังเมืองคุชิโระเมื่อตอนค่ำ
แรงงานในละแวกนั้นได้ใช้เครนยกวาฬทั้ง 2 ตัว ก่อนจะนำตัววาฬไว้ที่หลังรถบรรทุกและเดินทางไปยังโรงงานใกล้กันกับท่าเรือเพื่อจัดการกับวาฬต่อไป
หนึ่งในแรงงานซึ่งสวมชุดพลาสติกสีฟ้า เทสาเกจากแก้วกระดาษลงบนวาฬตัวแรก เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและฉลองการล่าวาฬครั้งแรกอีกด้วย
เจ้าหน้าที่หน่วยงานประมงระบุว่า เนื้อวาฬจะถูกนำไปเสนอราคาประมูลในตลาดปลาท้องถิ่นในวันที่ 4 ก.ค. และจะนำไปวางขายในร้านต่าง ๆ หลังจากนั้น โดยส่วนใหญ่จะขายในภูมิภาคใกล้เคียง แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะมีบางส่วนที่ขายในกรุงโตเกียว
ยาสุโทชิ นิชิมูระ เลขานุการคณะรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในโตเกียวว่า “เราหวังว่าการล่าวาฬเชิงพาณิชย์จะดำเนินการบนแนวทางที่ถูกต้องอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการล่าวาฬจะยิ่งสนับสนุนให้เกิดความมั่งคั่งในท้องถิ่น และช่วยสืบสานวัฒนธรรมการล่าวาฬของญี่ปุ่นที่เหนียวแน่นสู่รุ่นต่อไป”
หน่วยงานประมงระบุว่า การล่าวาฬจะอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ และมีขอบเขตหรือโควต้าสำหรับจำนวนวาฬที่สามารถล่าได้ตลอดทั้งปี 227 ตัว โดยรวมตั้งแต่วาฬมิงค์ วาฬเซย์ และวาฬบรูด้า ซึ่งน้อยกว่าที่ญี่ปุ่นเองเคยจับในมหาสมุทรแอนตาร์กติก และมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในโครงการวิจัยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่จับไปได้ถึง 637 ตัว
นักล่าวาฬคาดหวังว่าเนื้อวาฬจะมีราคาแพงขึ้นเป็นประวัติการณ์ มากกว่าราคาเฉลี่ยของเนื้อวาฬ 2,000 เยน/กก. หรือ 567 บาท ที่โครงการวิจัยเคยได้
ก่อนหน้านี้ การประกาศโควต้าการล่าวาฬมีกำหนดการที่จะเปิดเผยในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย. แต่กลับล่าช้าจนมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากต้องการจะหลีกเลี่ยงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างการประชุม G20 ที่โอซาก้าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่หน่วยงานประมงระบุว่า ปัจจุบัน มีการจำหน่ายเนื้อวาฬมากถึง 4,000-5,000 ตันต่อปี หรือก็คือ มีประชาชนบริโภคเนื้อวาฬ 30-40 กรัม/คน/ปี ซึ่งต่ำกว่าในอดีต และต่ำกว่าช่วงที่มีการบริโภควาฬมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี พ.ศ. 2505 หรือช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เนื้อวาฬมีราคาถูก โดยมีปริมาณการบริโภคมากสุดต่อปีถึง 22,300 ตัน