หุ้นเอเชียพุ่งสุดในรอบ 7 เดือน
เมื่อวันที่ 8 เม.ย.หุ้นในตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากนักลงทุนพอใจตัวเลขค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มากขึ้นในจีน ถึงแม้จะมีความกังวลล่วงหน้าถึงแนวโน้มว่าจะเป็นฤดูกาลรายได้ที่ลำบากขึ้นของสหรัฐฯ
ในเอกสารที่ตีพิมพ์บนเว็บไซต์ของรัฐบาลกลางเมื่อวันที่ 7 เม.ย.จีนระบุว่าจะยกระดับนโยบายที่จะลดสัดส่วนเงินทุนสำรองของธนาคารเพื่อสนับสนุนด้านการเงินให้กับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
หุ้นบลูชิปของจีนพุ่งขึ้น 1.4% ในแดนบวก ซึ่งไม่เคยสูงขนาดนี้มาก่อนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.61 เป็นต้นมา ขณะที่ดัชนี MSCI ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย – แปซิฟิกนอกญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 0.4% ไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 61 เป็นต้นมา
ดัชนีนิกเคอิของญี่ปุ่นก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของปีจนถึงตอนนี้ และปรับขึ้น 0.1%
ขณะที่ในวอลสตรีท ดัชนี S&P 500 ปิดสูงขึ้นในการซื้อขายต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 7 ในสัปดาห์ก่อน ถือเป็นช่วงที่ทำกำไรยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.60
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเป็นไตรมาสแรกที่รายได้บริษัทหดตัวนับตั้งแต่ปี 59 เป็นต้นมา
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. เหมือนมีการถอนหายใจผ่อนคลายทั่วโลกเมื่อรายงานรายได้ของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 196,000 อัตราในเดือนมี.ค. ขณะที่การเติบโตค่าจ้างรายปีชะลอตัวเล็กน้อยลงมาอยู่ที่ 3.2%
“ ข้อมูลนี้ช่วยระงับทั้งความกลัวด้านลบและบวก ” Alan Ruskin ประธานทั่วโลกของ G10 FX Strategy ที่ Deutsche Bank ระบุ “ ความกลัวที่ว่าจะเติบโตเล็กน้อยบรรเทาลงไป ในด้านบวก ข้อมูลค่าจ้างไม่ได้ชี้ว่ามีการเร่งเครื่องมากขึ้นซึ่งจะเป็นภัยคุกคามกับเงินเฟ้อ ”
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.61 โดยได้แรงขับเคลื่อนจากการลดเพดานการผลิตของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันโอเปก และการคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลาของสหรัฐฯ
โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้น 38 เซ็นต์มาอยู่ที่ 63.46 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าปรับเพิ่มขึ้น 39 เซ็นต์อยู่ที่ 70.73 ดอลลาร์สหรัฐฯ.