หัวเว่ยฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ
หัวเว่ย – บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการโต้กลับของบริษัทที่แข็งกร้าวที่สุดต่อข้อกล่าวหาที่ว่า เทคโนโลยีของบริษัทเป็นภัยต่อความมั่นคงทั่วโลก
โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.หัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลกระบุว่า บริษัทได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐเท็กซัส เพื่อเป็นการโต้แย้งสหรัฐฯที่มีคำสั่งห้ามไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลกลางจัดซื้ออุปกรณ์ของหัวเว่ย
“ คำสั่งแบนนี้ไม่เพียงผิดกฎหมาย แต่ยังเป็นการกีดกันไม่ให้หัวเว่ยได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งเป็นการทำร้ายผู้บริโภคในสหรัฐฯ” กั๋วผิง รองประธานบริษัทหัวเว่ยระบุในการแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ในเมืองเซินเจิ้นของจีน โดยเขากล่าวหาสภาคองเกรสสหรัฐฯว่าทำตัวเป็นทั้งผู้พิพากษา ลูกขุน และผู้สำเร็จโทษ จากการออกคำสั่งแบนเช่นนี้
หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำ ได้ร้องขอให้ศาลกลางสหรัฐฯ ยกเลิกคำสั่งแบนในกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (NDAA) ซึ่งลงนามโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเดือนส.ค.61 โดยหัวเว่ยระบุว่าบางส่วนของกฎหมาย ซึ่งเจาะจงห้ามหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ให้ใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยและบริษัทคู่แข่งจากจีนที่มีขนาดเล็กกว่าอย่าง ZTE เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯด้วยการกีดกันบุคคล หรือกลุ่มด้วยการลงโทษโดยไม่มีการไต่สวน
“สภาคองเกรสสหรัฐฯล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการสร้างหลักฐานที่จะสนับสนุนคำสั่งห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย” กั๋วกล่าว “ เราถูกกดดันให้ต้องใช้วิธีการทางกฎหมายเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เหมาะสม”
ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 มี.ค. กั๋วกล่าวหาว่ารัฐบาลอเมริกันเป็นพวกเสแสร้งแกล้งทำเขากล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯตราหน้าหัวเว่ยว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางไซเบอร์ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ เอง “กลับแฮกเซิร์ฟเวอร์ของเรา ขโมยอีเมลและรหัสต้นทางของเรา”
คำกล่าวอ้างนี้ดูจะอ้างไปถึงรายงานในปี 2557 จากเอกสารของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ของสำนักข่าวกรองกลางและเจ้าหน้าที่เทคนิคของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับโครงการสอดส่องดูแลอินเทอร์เน็ตของประเทศอื่นซึ่งเป็นปฏิบัติการลับสุดยอดของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯแก่สื่อที่กลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก
โดยสหรัฐฯระบุว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามเพราะไม่สามารถตอบปฏิเสธรัฐบาลจีนได้
“ กฎหมายจีนทำให้หัวเว่ยต้องจัดหาอุปกรณ์ในการเข้าถึงข้อมูลใดๆที่จีนต้องการจากเครือข่ายของพวกเขาได้” รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์กล่าวในเดือนก.พ.
บริษัทโต้แย้งคำกล่าวหาในวันแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 มี.ค.นี้ โดยย้ำว่าบริษัทจะปฏิเสธคำขอของรัฐบาลจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ขายให้กับผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมในประเทศต่างๆ
“ หัวเว่ยไม่ใช้วิธีการลับๆที่ผิดกฎหมาย เราจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาติดตั้งอะไรเพื่อสอดแนมความลับในอุปกรณ์ของเรา” กั๋วกล่าว
คดีนี้ยิ่งทวีความซับซ้อนขึ้นไปอีก เนื่องจากอัยการสหรัฐฯยื่นฟ้องคดีอาญากับหัวเว่ยในวอชิงตันและนิวยอร์ก โดยบริษัทถูกฟ้องในบรูคลินในข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ
โดยเมิ่งว่านโจว ซีเอฟโอของบริษัทถูกจับกุมในข้อหานี้ เธอถูกจับกุมตัวในแคนาดาในเดือนธ.ค.61 และกำลังจะถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ทั้งหัวเว่ยและเมิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด.