ไต้หวันฟื้นโทษประหารในรอบ 2 ปี

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ไต้หวันได้ทำการประหารนักโทษ โดยถือเป็นการประหารชีวิตนักโทษครั้งแรกภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แม้จะมีกระแสเรียกร้องจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนให้ยกเลิกโทษประหารก็ตาม
อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า นายหลี่หงฉีถูกประหารชีวิตที่เรือนจำทางตอนใต้ของเมืองเกาสงเมื่อตอนบ่ายของวันที่ 31 ส.ค. โดยการยิงเป้า ในคดีฆาตกรรมภรรยาเก่า และลูกสาววัย 5 ปี เมื่อปี 2557
นายหลี่ ใช้อาวุธแทงภรรยาเก่าของเขาจนเสียชีวิตที่ด้านนอกของโรงเรียนอนุบาลที่ลูกสาวของทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ ก่อนจะพาตัวลูกสาวของเขาไปที่รถ ซึ่งเขาได้วางแผนที่จะฆาตกรรมทั้งคู่รวมถึงตนเองด้วยการรมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
นายหลี่รอดชีวิตหลังเหตุได้รับการช่วยเหลือ แต่ลูกสาวของทั้งคู่เสียชีวิต 2 เดือนให้หลังแม้จะได้รับการรักษาแล้วก็ตาม
เฉิน หมิน ถัง รัฐมนตรีว่าการระทรวงยุติธรรมให้ข้อมูลแก่นักข่าวว่า “การกระทำของเขาทั้งอำมหิตและเหี้ยมโหด…และยังได้ก่อให้เกิดเหตุสลดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อครอบครัวของเหยื่อ” เขาเสริมว่า ศาลได้ตัดสินว่านายหลี่ไม่มีท่าทีที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้อีก
ไต้หวันได้นำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้งเมื่อปี 2553 หลังจากที่ยกเลิกไปเป็นเวลา 5 ปี โดยโทษประหารจะถูกใช้ตัดสินสำหรับอาชญากรรมที่รุนแรงเท่านั้น เช่น การฆาตกรรมที่ได้มีการไตร่ตรองไว้ก่อนหน้า และการลักพาตัว
นักการเมืองบางส่วนและกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้เรียกร้องให้ยกเลิกโทษประหาร แต่ผลสำรวจหลายแห่งยังเผยให้เห็นว่า ประชากรส่วนใหญ่แล้วยังให้การสนับสนุนโทษประหารอยู่
นายเฉินระบุว่า รัฐบาลไต้หวันได้พยายามลดการตัดสินโทษประหารให้น้อยลง แต่จะยังไม่มีการยกเลิกโทษประหารในตอนนี้
เขากล่าวว่า “การยกเลิกโทษประหารถือเป็นกระแสจากสากลโลก และถือเป็นเป้าหมายระยะยาวของกระทรวงยุติธรรม… แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคิดเห็นที่เป็นเอกฉันท์ในประเทศของเรา”
ปัจจุบัน ในไต้หวันมีนักโทษรอการประหารชีวิตอยู่ 42 ราย การประหารชีวิตนายหลี่ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประหารชีวิตอดีตนักศึกษาในเดือน พ.ค. ปี 2559 หลังฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้า 4 ราย ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งกลายเป็นคดีเขย่าขวัญไต้หวันที่เคยสงบสุขนับแต่นั้น
ในปี 2555 คดีฆาตกรรมเด็กผู้ชายในสนามเด็กเล่น กลับมีกระแสความคิดเห็นที่เป็นเอกฉันท์หลังการโต้เถียงเกี่ยวกับโทษประหาร หลังจากที่ผู้ต้องสงสัยในคดีระบุว่า เขาคาดไว้แล้วว่าเขาคงจะได้รับการลดโทษ และจะได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ รวมถึงถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต แม้ว่าเขาจะฆ่าคนสัก 2 คน หรือ 3 คน ก็ตาม
สหภาพยุโรปแสดงความเห็นใจต่อผู้ใกล้ชิตของเหยื่อฆาตกรรมของนายหลี่ แต่ก็ได้แสดงมุมมองต่อต้านการใช้โทษประหารชีวิตอย่างตรงไปตรงมา
ในแถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มสหภาพยุโรปได้เรียกร้องให้ไต้หวัน กลับมาระงับการใช้โทษประหารเช่นในอดีตอีกครั้งในทันที โดยถือว่าเป็นก้าวแรกสำหรับการยกเลิกโทษประหารอย่างถาวร.