ทำเนียบขาวถอย แต่ยังจับตาจีนลงทุนในสหรัฐฯ
ถึงแม้แถลงการณ์ต่อสาธารณะจะแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของสหรัฐฯ ที่อ่อนลง แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเฝ้าจับตาการลงทุนของจีนในบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันต่อไป
หลายประเด็นยังขึ้นอยู่กับสภาคองเกรสที่จะเคลื่อนไหวต่อไป หลังจากมีการรอคอยมานานที่รัฐบาลปัจจุบันจะพิจารณาทบทวนการอนุมัติธุรกรรมที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งรวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ทำเนียบขาวยอมถอยจากคำสัญญาเมื่อเดือนพ.ค.ที่ว่า จะยกระดับกฎระเบียบที่เข้มงวดในการลงทุนของจีนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกัน
“ เรากำลังจะปฏิบัติกับจีนในวิธีเดียวกับที่เราปฏิบัติต่อคนอื่นๆ และในกรณีที่เรากังวลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมนั้นๆ เราก็จะบล็อกพวกเขา แต่เราจะไม่แบ่งแยกปฏิบัติแบบเหมารวมกับจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา”
แต่ถึงแม้จะไม่มีการเลือกปฏิบัติกับจีน แต่รัฐบาลสหรัฐฯจะยังคงมีจุดยืนที่แข็งแกร่งในการทำธุรกรรมของจีนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อ้างอิงจาก Derek Scissors นักวิชาการที่ American Enterprise Institute ซึ่งศึกษาเรื่องการลงทุนของจีนทั่วโลก
ก่อนที่จะเคลื่อนไหวต่อไปเรื่องความเข้มงวดในการลงทุน รัฐบาลเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ไปก่อน หากสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นกับการลงทุนของต่างชาติในบริษัทอเมริกัน
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. สภาผ่านกฎหมายที่จะให้มีการทบทวนการลงทุนต่างชาติในปัจจุบันที่จัดการโดยคณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐฯ หรือ CFIUS
CFIUS ปฏิรูปกฎหมายปัจจุบันและผ่านไปที่วุฒิสภา ซึ่งมีร่างกฎหมายแยกที่ตั้งเป้าเพื่อคลายความกังวลเกี่ยวกับบริษัทจีน ซึ่งหลายแห่งมีความเชือมโยงกับรัฐบาลจีน ที่พยายามจะเข้ามาซื้อบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์อเมริกัน และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
Mnuchin รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ และเป็นประธานในคณะกรรมการพิจารณาของ CFIUS ระบุเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ว่า หากสภาคองเกรสมีมติไม่ผ่านความเห็นชอบกฎหมายปฏิรูป ทำเนียบขาวจะหามาตรการอื่นจากอำนาจที่มีอยู่เพื่อปกป้องเทคโนโลยีที่อ่อนไหวของสหรัฐฯ
หนึ่งในเรื่องที่ยังไม่ทราบที่เป็นเรื่องใหญ่คือ รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์มีแผนจะขยายคำจำกัดความของคำว่า ‘ความมั่นคงของชาติ’ เพื่อให้หมายรวมถึง ‘ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ’ ด้วย อ้างอิงจากข้อมูลของ Stefan Selig นายธนาคารด้านการลงทุน และอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ รัฐบาลเพิ่งพิจารณาใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
“ เรายังไม่เห็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนจากรัฐบาลที่ตลาดสามารถยึดเป็นหลักได้ สิ่งที่เราคาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวแบบไหนในอนาคตให้ตรงกับเจตนาทางการค้า” Selig กล่าว.