เตือนกูเกิลทำงานกับหัวเหว่ย
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ส.ส.สหรัฐฯ ทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตร้องขอไปที่อัลฟาเบต บริษัทแม่ของกูเกิลให้พิจารณาทบทวนการทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีนอย่างหัวเหว่ย โดยพวกเขาให้เหตุผลถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคง
ในจดหมายถึงนายสุนทร พิชัย ซีอีโอของกูเกิล บรรดาส.ส.อเมริกันระบุว่า กูเกิลเพิ่งมีการตัดสินใจเมื่อเร็วๆนี้ที่จะไม่ทำโครงการ Maven ซึ่งเป็นการทำวิจัยปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นหุ้นส่วนกับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ
“ ขณะที่เรารู้สึกเสียดายที่กูเกิลไม่ต้องการจะทำงานซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือกันมายาวนานและมีผลลัพธ์ที่ดีระหว่างทางกองทัพและบริษัทเทคโนโลยี เรารู้สึกผิดหวังมากยิ่งขึ้นอีกที่กูเกิลมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนมากกว่ากองทัพสหรัฐฯ” อ้างอิงจากข้อความในจดหมาย
โดยจดหมายลงนามโดยส.ว.ทอม คัตตันและมาร์โค รูบิโอจากพรรครีพับลิกัน ส.ส.ไมเคิล คอนนาเวย์ และลิซ เชนีจากพรรครีพับลิกัน และส.ส.ดัตช์ รับเปปอร์สเบอร์เกอร์จากพรรเดโมแครต แอนเดรีย ฟาวิลล์ โฆษกหญิงของกูเกิลกล่าวว่า บริษัทพร้อมที่จะตอบในเรื่องนี้
“ เหมือนกับบริษัทในสหรัฐฯหลายแห่ง เราทำข้อตกลงกับ OEMs (ผู้ผลิต) นับสิบรายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงบริษัทหัวเหว่ยด้วย เราไม่ได้ให้การเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานกูเกิลเป็นพิเศษมาเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงนี้ และข้อตกลงของเรามีความเป็นส่วนตัวและมีการปกป้องการใช้งานให้มีความปลอดภัย”
จดหมายฉบับนี้ถือเป็นฉบับล่าสุดจากสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯที่ตั้งเป้าจะกีดกันไม่ให้มีการทำข้อตกลงระหว่างบริษัทสหรัฐฯ กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเหว่ย และ ZTE ซึ่งเป็นอีกบริษัทของจีนที่ถูกทางการสหรัฐฯเข้ามาแทรกแซงการดำเนินธุรกิจด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
โดยส.ส.เหล่านี้พยายามร่างกฎหมายหลายฉบับที่จะห้ามไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลใช้สินค้าจากบริษัทของจีน และพยายามคว่ำข้อตกลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะยกเลิกการแบนกับ ZTE
ในกรณีของ ZTE ทางการสหรัฐฯ พบว่า ในปี 2560 บริษัท ZTE ของจีนละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯด้วยการขายอุปกรณ์ให้กับอิหร่าน ทำให้สหรัฐฯ ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ ZTE ซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทอเมริกันในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังพบว่า บริษัทโกหกเรื่องการลงโทษผู้บริหารของบริษัทที่ละเมิดการคว่ำบาตรด้วย จึงส่งผลให้ ZTE ต้องหยุดการดำเนินธูรกิจ
แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการผ่อนปรนกับจีนในช่วงการเจรจาก่อนเกิดสงครามการค้า จึงพยายามให้มีการพูดคุยกับผู้แทนการค้าของจีนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ และจากข้อตกลงที่ทำร่วมกันใหม่ ZTE สัญญาจะเปลี่ยนบอร์ดบริหารและการจัดการภายใน 30 วัน จ่ายค่าปรับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีสัญญาเพิ่มเติมที่มีมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยข้อตกลงนี้ยังรวมถึงคำสั่งแบน 10 ปีหากบริษัทมีการละเมิดข้อตกลงอีกในอนาคต
เมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย. ส.ว.มาร์ก วอร์เนอร์จากพรรคเดโมแครต เขียนไปหาอัลฟาเบตและบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆโดยถามเกี่ยวกับข้อตกลงในการแชร์ข้อมูลกับผู้ขายของจีน.