พนักงานโคเรียนแอร์ประท้วงไล่ผู้บริหาร
พนักงานสายการบินโคเรียนแอร์หลายร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่สวมหน้ากากเพื่อปิดบังตัวตน ได้ออกมาเดินขบวนประท้วงไปตามถนนเพื่อแสดงความไม่พอใจที่มีต่อครอบครัวผู้บริหาร
โดยระหว่างที่เดินขบวนเพื่อกดดันผู้บริหาร พวกเขาต่างตะโกนเรียกร้องให้นายโชยังโฮ ประธานของสายการบินโคเรียนแอร์ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด
การเดินขบวนประท้วงของพนักงานในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความไม่พอใจความประพฤติที่ย่ำแย่ของลูกสาวประธานสายการบินโคเรียนแอร์ทั้งสองคน ที่กลายเป็นข่าวฉาวไปทั่วโลก โดยเมื่อเร็วๆนี้ ลูกสาวคนเล็กแสดงท่าทีอารมณ์ร้ายและปฏิบัติต่อพนักงานอย่างไม่ให้เกียรติในการประชุม
น.ส.โชฮยอนมิน ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ปาขวดน้ำใส่ผู้จัดการของเอเจนซีโฆษณาซึ่งเข้าร่วมประชุมอย่างที่เป็นข่าว แต่ยอมรับว่าเธอมีการผลักจริงในการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
พนักงานผู้ที่เข้าร่วมในการประท้วงเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ไม่พอใจที่อัยการปฏิเสธไม่ออกหมายจับให้ตำรวจในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยอัยการอ้างว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
ครอบครัวประธานโคเรียนแอร์กลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนครั้งแรกเมื่อปี 2557 เมื่อน.ส.โชฮยอนอา ลูกสาวคนโตออกคำสั่งให้เครื่องบินลำที่เธอโดยสารอยู่เลี้ยวกลับไปที่เดิมเพราะไม่พอใจที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเสิร์ฟถั่วให้เธอจากถุง แทนที่จะใส่จาน เธอถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้บริหาร ถูกดำเนินคดีและถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 1 ปี แต่รับโทษเพียง 5 เดือนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
เมื่อต้นปีนี้ เธอซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บริหารใหม่ ต้องถูกบิดาสั่งปลดออกจากตำแหน่งอีกครั้งจากผลกระทบของเหตุการณ์ฉาวของน้องสาวของเธอ
ตำรวจระบุว่า ในขณะนี้ กำลังสอบสวนในคดีของอีมยองฮี มารดาของเธอ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเคยล่วงละเมิดด้วยวาจาและทำร้ายร่างกายพนักงานหลายคนในอดีต
นอกจากนี้ กรมศุลกากรกำลังตรวจสอบเอกสารจากกลุ่มผู้ที่เปิดโปงว่า ครอบครัวโชเคยใช้เที่ยวบินของโคเรียนแอร์ในการลักลอบนำสินค้าหรูหราราคาแพงเข้าประเทศโดยหลบเลี่ยงไม่จ่ายภาษีอีกด้วย
“เราทนครอบครัวโชอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว” พัคชางจิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่อยู่ในเหตุการณ์ฉาวของบุตรสาวคนโตเรื่องถั่วกล่าวกับผู้ร่วมประท้วง อ้างอิงจากการรายงานของสื่อรอยเตอร์ “ครอบครัวโช ออกไปจากบริษัท !”
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ นายโชยังโฮ ผู้เป็นพ่อและประธานกลุ่มบริษัทฮันจิน ซึ่งเป็นเจ้าของโคเรียนแอร์ ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนแทนครอบครัวและสั่งปลดลูกสาวทั้งสองคนออกแล้วก็ตาม แต่ยังไม่สามารถลดกระแสความไม่พอใจของพนักงานและคนในสังคมที่ต้องการกดดันครอบครัวเขาให้ออกจากบอร์ดบริหารลงได้.