ทรัมป์ประชุมคิมแน่ แต่ยังไม่รู้สถานที่
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาเชื่อมั่นว่าจะมีการประชุมกับประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ และอาจจัดการประชุมขึ้นที่เขตปลอดทหาร (DMZ) ระหว่างสองเกาหลี
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ เผยว่ากำลังพิจารณาสถานที่จัดการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ (ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกของประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้นำเกาหลีเหนือ) แต่ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางการต่อสาธารณะ
ในระหว่างการประชุมร่วมกับผู้นำไนจีเรีย ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าสิงคโปร์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เขากำลังพิจารณาให้เป็นสถานที่จัดการประชุม หลังจากช่วงเช้าเขาทวีตบนทวิตเตอร์ว่า DMZ ในเกาหลีอาจได้รับการพิจารณา
“ มีบางอย่างที่ผมชอบคือ เพราะคุณอยู่ที่น้่น ถ้าทุกอย่างมันได้ผล จะมีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่จากที่นั่น ไม่ใช่ประเทศที่เป็นตัวกลาง” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว
“ เราได้มองประเทศอื่นๆไว้ด้วย เช่น สิงคโปร์ ทุกคนต้องการเรา เป็นโอกาสที่การประชุมจะเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่” ผู้นำสหรัฐฯกล่าว
ขณะที่สถานที่แห่งอื่นที่มีศักยภาพเพียงพอให้สหรัฐฯพิจารณาคือมองโกเลียและสวิตเซอร์แลนด์
ทั้งนี้ อาคาร Peace House ในหมู่บ้านปันมุนจอมใน DMZ เป็นสถานที่ซึ่งประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือและประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ประชุมกันเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งนับเป็นขั้เหตุการณ์สำคัญในการผ่อนคลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีลงในการทวีตช่วงเช้า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เอ่ยถึงสถานที่แห่งอื่นที่มีความเป็นไปได้
“ กำลังพิจารณาอีกหลายประเทศสำหรับการประชุม แต่ Peace House ตรงพรมแดนสองเกาหลี ดูจะเป็นสถานที่ซึ่งมีความเป็นตัวแทนมากกว่า เป็นสถานที่สำคัญและดีกว่าประเทศอื่นไหม ? แค่ถามดู” เขาทวีต
“ สหรัฐฯไม่เคยเข้าใกล้ขนาดนี้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นด้วยความเคารพในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งอาจเป็นการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว ด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่นว่าจะเดินหน้าไปสู่การจัดการประชุม และย้ำว่าเขาจะเดินออกจากที่ประชุมหากล้มเหลวไม่เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์
“ ใช่ ผมคิดว่าจะมีการประชุมเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เราต้องการให้เกิดขึ้นมาก” เขากล่าว
“ โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามันจะสำเร็จ เราจะได้เห็น ถ้าไม่อาจกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ ผมจะเดินออกมาด้วยความเคารพ”
ผู้นำสหรัฐฯต้องการให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และทางวอชิงตันกำลังกดดันให้เกาหลีเหนือทำเช่นนั้นผ่านมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าและเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น แต่เกาหลีเหนือมองว่า โครงการอาวุธนิวเคลียร์จะช่วยให้ประเทศอยู่รอด เป็นการการันตีความมั่นคงให้ประเทศ
ไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวกับสำนักข่าว ABC ในช่วงสุดสัปดาห์ว่า สหรัฐฯมีความจำเป็นที่ต้องเจรจาทางการทูตกับเกาหลีเหนือ แม้ก่อนหน้านี้จะมีวาทกรรมที่ดุเดือดจากรัฐบาลทรัมป์โต้ตอบกับเกาหลีเหนืออยู่บ่อยครั้ง
ปอมเปโอซึ่งเคยเป็นอดีตผอ.CIA กล่าวว่า เขาและประธานาธิบดีคิมมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ตรวจสอบได้และไม่อาจเปลี่ยนแปลงกลับได้ ในช่วงที่พวกเขาประชุมกันในช่วงวันหยุดอีสเตอร์ที่ผ่านมา.