เครื่องยนต์สายการบินเซาต์เวสต์ระเบิด คร่าชีวิต 1 ราย
เครื่องบินของสายการบินเซาต์เวสต์ แอร์ไลน์ส์ จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินหลังเกิดเหตุเครื่องยนต์ระเบิดกลางอากาศเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
เที่ยวบิน 1380 ของสายการบิน เซาต์เวสต์ ด้วยเครื่องบินโบอิง 737-300 กำลังเดินทางจากนิวยอร์กไปยังเมืองดัลลัส โดยมีผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด 143 ราย และลูกเรืออีก 5 ราย กระทั่งเกิดเหตุเครื่องยนต์ฝั่งซ้ายของเครื่องบินระเบิด และทำให้ชิ้นส่วนจากเครื่องยนต์ที่เสียหายพุ่งเข้าชนกระจกของตัวเครื่องจนแตก ส่งผลให้หญิงรายหนึ่งถูกดูดออกจากตัวเครื่อง โชคดีที่มีคนคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน แต่เธอก็บาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิตต่อมาในภายหลัง รวมทั้งยังมีผู้บาดเจ็บรายอื่นอีกทั้งหมด 7 ราย
ด้านโรเบิร์ต ซัมวอลต์ ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติ ของสหรัฐฯ หรือ NTSB ระบุในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 เม.ย.การเสียชีวิตของผู้โดยสารหญิงรายนี้ ถือเป็นครั้งแรกของอุบัติเหตุบนสายการบินสหรัฐฯในรอบ 9 ปี โดยอุบัติเหตุบนเครื่องบินตกครั้งล่าสุดในสหรัฐฯ คือเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ปี 2552 เมื่อสายการบินโคลแกน แอร์ เที่ยวบิน 3407 ขณะกำลังเดินทางไปยังเมืองบัฟฟาโล นิวยอร์ก ในอุบัติเหตุครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 50 ราย โดยมีผู้โดยสาร 45 ราย กัปตัน 2 ราย ลูกเรือ 2 ราย และอีก 1 รายคือผู้ที่อยู่บนพื้นดิน
อ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าวเอพี ขณะนี้ สายการบินสหรัฐฯกำลังเผชิญหน้าเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในรอบเกือบสิบปี
โดยเที่ยวบินดังกล่าว เดินทางจากท่าอากาศยานลากวาร์เดียในนิวยอร์ก ไปยังดัลลัส จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินฟิลาเดลเฟียเมื่อเวลาราว 11.20 น. หลังจากเกิดหายนะบนเที่ยวบินเนื่องจากเครื่องยนต์ฝั่งซ้ายของเครื่องล้มเหลว ด้าน NTSB จะเข้ามามีส่วนสืบสวนเรื่องดังกล่าวที่แยกออกมาจากหน่วยงานอื่น และจะตรวจสอบเครื่องยนต์เพื่อหาคำตอบว่าเกิดเหตุผิดพลาดใดขึ้น
ในคืนของวันที่ 17 เม.ย. ทางสายการบินเซาต์เวสต์ ได้ออกมายืนยันการเสียชีวิตของผู้โดยสารในแถลงการณ์
นายแกรี เคลลี ซีอีโอของสายการบินเซาต์เวสต์ แอร์ไลน์ส์ ระบุว่า “ ผมอยากจะขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งของผมต่อครอบครัวและผู้เป็นที่รักของผู้โดยสารที่เสียชีวิต ผู้คนเหล่านี้คือผู้เราให้ความสำคัญที่สุดในทันทีและเป็นอันดับแรก และเราจะทำทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อสนับสนุนพวกเขาให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนยากลำบากและวันคืนที่แสนยากเย็นในอนาคต ”
ในการพูดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายเคลลีระบุว่า สายการบินจะร่วมมือทำงานกับ NTSB เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับ “ ต้นตอของสาเหตุ ” ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ และจะค้นหาวิธีการปฏิบัตินอกเหนือจากนี้เพื่อนำมาปรับใช้ให้เที่ยวบินปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม
อุบัติเหตุบนเที่ยวบินของสายการบินเซาต์เวสต์ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากปี 2560 ที่ได้ชื่อว่าเป็นปีที่มียอดเสียชีวิตบนเที่ยวบินลดน้อยลง อ้างอิงจากเครือข่ายความปลอดภัยด้านการบิน หรือ ASN รายงานเมื่อต้นปีว่า ในปี 2560 ถือเป็นปีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเที่ยวบิพาณิชย์ทั่วโลก โดยมีอุบัติเหตุบนเครื่องบินเพียง 10 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 44 ราย
จากรายงานดังกล่าว ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกมารับความดีความชอบเกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิตที่ต่ำ แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะพูดว่าเขาเคยเข้มงวดกับการบินพาณิชย์อย่างมาก แต่ทรัมป์ก็ไม่เคยเป็นผู้กำหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยบนเครื่องบินที่สำคัญ และเชื่อว่าความปลอดภัยของสายการบินที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากกลุ่มหน่วยงานด้านการบินระดับสากลมากกว่าทางทำเนียบขาว.