ทรัมป์กับอเมซอน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมทำสงครามกับยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่างอเมซอน แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมซอน
ด้วยบริการคอมพิวเตอร์คลาวด์ที่มีประสิทธิภาพของอเมซอน ทำให้บริษัททำข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วยการจัดหาบริการคลาวด์ให้กับหน่วยงาน CIA และสำนักข่าวกรองอื่นๆ ของรัฐบาล
โดยมีการทำข้อตกลงกันในปี 2556 และอเมซอนสามารถเอาชนะ IBM ได้ในธุรกิจนี้ เป็นสัญญาที่มีมูลค่าถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 18,810 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 10 ปี
ดีลนี้ทำตั้งแต่สมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา แต่มีการยกระดับเงื่อนไขข้อตกลงตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง
อเมซอนระบุเมื่อเดือนพ.ย.ปี 2560 ว่า ได้สร้างสรรค์ Secret Region ให้ CIA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดีลข้อตกลงของรัฐบาลกับ AWS และอเมซอนได้ประกาศการขยายข้อตกลงออกไปอีกในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ในบล็อกของอเมซอน บริษัทโพสต์ว่า เป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายเดียวที่ทำสัญญากับรัฐบาลเต็มรูปแบบในการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รวมทั้งข้อมูลลับสุดยอด
โดยอเมซอนอวดอ้างโฆษณาถึงดีลของบริษัทกับรัฐบาล โดยเน้นถึงศักยภาพที่ช่วยให้รัฐบาลสามารถประหยัดงบประมาณด้วยการใช้ AWS เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่น
แต่มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังมองหาช่องทางที่จะปรับขึ้นค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าจากอเมซอน และถึงขนาดที่อาจจะขอยกเลิกสัญญาที่รัฐบาลทำไว้กับอเมซอน อ้างอิงจากบทความของ Vanity Fair ที่เผยแพร่เมื่อคืนวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
จริงหรือไม่ที่ผู้นำสหรัฐฯจะลงโทษอเมซอน ( ซึ่งเป็นผู้จ่ายภาษีรายใหญ่ที่มีศักยภาพ) โดยยกเลิกดีลที่มีอยู่คือ AWS กับกระทรวงกลาโหมและ CIA และหน่วยงานของกองทัพและสำนักข่าวกรองอื่นๆ ?
ทางทำเนียบขาวไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้ ขณะที่ทางอเมซอนก็ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลง AWS กับรัฐบาล และการโจมตีอย่างต่อเนื่องของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีต่อบริษัท
ทั้งนี้ หุ้นของอเมซอนดิ่งร่วงลงเกือบ 10% ตั้งแต่มีการรายงานเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังหมกมุ่นกับเรื่องของอเมซอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบทวิเคราะห์ที่ครอบคลุมประเด็นต่างๆในทำเนียบขาวโดยสื่อวอชิงตัน โพสต์ (ซึ่งเจฟ เบซอส ซีอีโอของอเมซอนเป็นเจ้าของ)
ในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ทวีตบนทวิตเตอร์หลายครั้งว่า เขารู้สึกว่าอเมซอนกำลังเอาเปรียบ โดยฉกฉวยประโยชน์จากบริการไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ไม่ได้จ่ายภาษีมากพอ และกำลังเขี่ยผู้ค้าปลีกนับพันออกจากธุรกิจ
เมื่อเช้าวันที่ 3 เม.ย. เขายังได้ทวีตโจมตีอเมซอนอีกครั้งบนทวิตเตอร์ โดยวิจารณ์ว่า บริการไปรษณีย์สหรัฐฯ เหมือนเป็นเด็กส่งของให้อเมซอน และทำให้ผู้เสียภาษีในสหรัฐฯ ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายแทนอเมซอนเป็นจำนวนมาก แทนที่บริษัทจะจ่ายภาษีนับพันล้านดอลลาร์ให้รัฐบาล.