ทัพรัสเซียจ่อยึดกรุงเคียฟ

ทหารรัสเซียบุกประชิดกรุงเคียฟ จ่อยึดเมืองหลวงยูเครนเข้าไปทุกขณะ เสียงระเบิดดังระงมเกือบทั้งประเทศยูเครนตลอดช่วงเวลานับตั้งแต่วันพฤหัสบดี จนถึงช่วงเช้าวันเสาร์ 26 ก.พ.ภาพข่าวมั่วแพร่สะพัดโดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์

การรุกคืบของกองทัพรัสเซียสู่ยูเครน ดำเนินอย่างต่อเนื่องวันที่ 3 เมื่อวันเสาร์ 26 ก.พ. เสียงระเบิดจากปืนใหญ่ดังระงมบริเวณโดยรอบกรุงเคียฟ กระสุนปืนใหญ่มาจากหลายทิศทาง โดยกองทัพรัสเซียบุกยูเครนจากทั้งภาคเหนือมาจากเบลารูส ภาคตะวันออกมาจากพื้นที่ยึดครองโดยฝ่ายกบฎยูเครน และกองกำลังภาคใต้มาจากพื้นที่แคว้นไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเป็นดินแดนตัวเองตั้งแต่ปี 2014 อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารัสเซียส่งทหารเข้าพื้นที่ยูเครนแล้วมากน้อยเพียงใดและความเสียหายโดยรวมมีมากน้อยแค่ไหน

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีย์ ผู้นำยูเครน แถลงผ่านวิดิโอลิงค์จากแหล่งหลบภัยแห่งหนึ่งถึงเหล่าผู้นำสหภาพยุโรปตั้งแต่ช่วงคืนวันพฤหัสบดี ระบุนี่อาจเป็นห้วงเวลาสุดท้ายที่จะได้พบเห็นหน้าเขาที่ยังมีชีวิต แต่ยังยืนยันว่าเขายังอยู่ในพื้นที่กรุงเคียฟ ทั้งเรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิงทันที

ส่วนกองทัพรัสเซีย โดยพลตรีอิกอร์ โคนาสเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงระบุทหารรัสเซียทำลายที่ตั้งทหารยูเครนแล้ว 211 แห่ง รวมถึงศูนย์บัญชาการทหาร 17 แห่ง ทำลายระบบต่อสู้อากาศยาน 19 แห่ง ทำลายฐานเรดาร์ 39 แห่ง ทำลายรถถัง 67 คัน และทำลายเครื่องบิน 6 ลำ แต่กองทัพรัสเซียยังให้หลักประกันความปลอดภัยชีวิตพลเรือนยูเครน พร้อมกันนี้ รัสเซียได้ยึดสนามบินทางยุทธศาสตร์ของยูเครนนอกกรุงเคียฟเอาไว้แล้ว

ฝ่ายยูเครนแถลงตอบโต้ ระบุยิงเครื่องบินขนส่งของรัสเซีย รุ่น II-76 ตกทางใต้กรุงเคียฟ ประมาณ 40 กม.แต่ยังไม่ทราบชัดว่ามีทหารอยู่บนเครื่องบินจำนวนเท่าใด แต่เครื่องบินรุ่นนี้ปกติลำเลียงทหารพลร่มได้ครั้งละมากกว่า 125 นาย

ข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ยูเครนห้วงเวลานี้เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภาพข่าวจำนวนมากทำให้เกิดความสับสนและไม่ใช่ของจริง โดยเฉพาะการนำเสนอภาพข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์.