รัสเซียบุกยูเครนต่อเนื่องวันที่2
รัสเซียโจมตียูเครนต่อเนื่องวันที่ 2 เสียงระเบิดดังระงมรอบกรุงเคียฟ ยูเครนอ้างพลเรือนเสียชีวิตจากการโจมตีแล้วกว่า 137 ราย ชาติตะวันตกขยายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย มุ่งอายัติการเงินการธนาคาร
สถานการณ์กองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนจากหลายด้านทั้งทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี 24 ก.พ. ก่อให้เกิดการปะทะกันหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ 25 ก.พ. อ้างทหารและพลเรือนยูเครนเสียชีวิตจากการถูกโจมตีแล้วกว่า 137 ราย ทั้งระบุรัสเซียต้องการทำลายศักยภาพทางการเมืองและโค่นล้มอำนาจรัฐบาลของเขาและต้องการตั้งรัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับรัสเซีย
ความเคลื่อนไหวผู้คนชาวยูเครนในหลายพื้นที่ ต่างพากันหลบใช้ชีวิตอยู่ตามที่พักและสถานที่หลบภัยใต้ดิน ท่ามกลางเสียงไซเรนเตือนภัยระเบิดดังระงมเกือบตลอดทั้งคืนวันพฤหัสบดี ขณะที่ทาวการยูเครนประกาศ “เคอร์ฟิว” ห้ามประชาชนออกนอกเคหาสถานตลอดช่วงกลางคืนจนถึงเวลา 07.00 น.เช้าวันศุกร์ ทั้งมีรายงานเครื่องบินรัสเซียตกระเบิดกลางกรุงเคียฟ โดยฝ่ายยูเครนอ้างว่าเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกลงกลางอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งสูง 9 ชั้น จนเกิดไฟไหม้
อีกด้านหนึ่งกองทัพรัสเซียได้บุกยึดควบคุมพื้นที่อดีตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล สถานที่เคยเกิดพิบัติภัยนิวเคลียร์รั่วไหลรุนแรงมากที่สุดของโลก โดยยังไม่ทราบเหตุผลชัดเจน
ชาติตะวันตก รวมถึงสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ร่วมแถลงประณามการบุกยูเครนของรัสเซีย ทั้งประกาศขยายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยเฉพาะด้านการเงิน การธนาคาร ด้านกลาโหมและเทคโนโลยี ส่วนกองกำลังเนโต้ ทำได้เพียงขยับกำลังกระชับพื้นที่ด้านตะวันออกทวีปยุโรปมากขึ้น ขณะที่ยูเครนต้องประกาศเปลี่ยนเส้นทางการบินเหนือน่านฟ้ายูเครนใหม่และให้เครื่องบินหลีกเลี่ยงการบินผ่านน่านฟ้ายูเครน
ปฏิกิริยาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการทหารของสหรัฐฯ อ้างรัสเซียกำลังต้องการยึดอำนาจรัฐบาลยูเครนเพื่อบีบจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับรัสเซีย ส่วนรัสเซีย ระบุจำเป็นต้องปกป้องพลเรือนยูเครนในพื้นที่ยึดครองของกบฎยูเครนทางภาคตะวันออก ซึ่งรัสเซียสนับสนุนและยอมรับพื้นที่ยึดครองของกบฎยูเครนคือรัฐอิสระ โดยพื้นที่ดังกล่าวเกิดการสู้รบกันระหว่างทหารยูเครนกับกองกำลังกบฎมานานตลอดช่วง 8 ปี.