ฝรั่งเศสผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งอีก
ปารีส – เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ตัวเลขผู้ป่วยจากโควิด-19 ในห้องไอซียูเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ กดดันมากขึ้นให้มีมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศตามที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงระบุว่าเป็นเรื่องจำเป็น
โดยข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขชี้ว่า ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยรักษาโควิด-19 ในห้องไอซียูถึง 4,791 ราย เพิ่มขึ้นจากเดิม 4,766 รายในวันที่ 26 มี.ค.
ตัวเลขผู้ป่วยเคยพุ่งแตะระดับสูงสุดช่วงกลางเดือนพ.ย. ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกสอง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วที่ฝรั่งเศสประกาศมาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรก มีผู้ป่วยสูงสุดกว่า 7,000 ราย
แพทย์ระบุว่า เตียงในห้องไอซียูในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโควิด-19 อาจอยู่ในภาวะล่มสลาย
มีคนข้องใจตั้งคำถามกับคำสัญญาของรัฐบาลที่รับปากจะให้โรงเรียนเปิดต่อไป เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในบรรดานักเรียนมีเพิ่มขึ้น และมีเสียงคัดค้านจากครู ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะออกไปเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. สเปนระบุว่า จะกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากฝรั่งเศสต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 ว่าไม่ติดเชื้อ
ในสัปดาห์นี้ มาครงกล่าวปกป้องการตัดสินใจของเขาที่ไม่ประกาศล็อกดาวน์ปิดทั้งประเทศเป็นรอบที่ 3 ระบุแต่เพียงว่า อาจจำเป็นต้องมีมาตรการคุมเข้มมากขึ้น
มีการประกาศเพิ่มมาตรการคุมเข้มครอบคลุมอีก 3 พื้นที่ รวมทั้งแคว้นโรนาลป์รอบเมืองลียง เหมือนกับกรุงปารีสคือการปิดร้านที่ไม่จำเป็นและยกระดับการคุมเข้ม
ในวันที่ 26 มี.ค. นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีประกาศว่า ฝรั่งเศสเป็นพื้นที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สูง ทำให้นักเดินทางต้องแสดงเอกสารว่ามีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และต้องมีการกักตัวเมื่อมาถึง
แอกเนส ปานนิเยร์ – รูนาแชร์ รมช.อุตสาหกรรมกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลพยายามที่จะเร่งโครงการฉีดวัคซีนและรัฐบาลคาดการณ์ว่าจะได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 อีกประมาณ 3 ล้านโดสในสัปดาห์นี้
จนถึงวันที่ 27 มี.ค. กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีกว่า 7.7 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกไปแล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้ในฝรั่งเศสสูงเกือบ 95,000 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 8 ของโลก