‘ไบเดน’ ต่อสายคุย ‘สี’ ครั้งแรก
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อสายคุยโทรศัพท์ครั้งแรกกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง โดยเน้นย้ำกับผู้นำจีนในประเด็นการค้าและการปราบปรามนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงของจีน รวมถึงความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนอื่นๆ
โดยทั้งสองผู้นำประเทศมหาอำนาจคุยกัน หลังจากไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่ไบเดนประกาศแผนงานของกระทรวงกลาโหมในการทบทวนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติในจีน และหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ประกาศมาตรการคว่ำบาตรบรรดานายพลผู้นำทหารของเมียนมา หลังจากกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน
แถลงการณ์ทำเนียบขาวระบุว่า ไบเดนแสดงความกังวลเกี่ยวกับ “วิธีการปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่บีบบังคับและไมเป็นธรรม” ของจีน โดยไบเดนยังกดดันสีเรื่องการปราบปรามในฮ่องกง การละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยในมณฑลซินเจียง ที่อยู่ทางตะวันตกของจีน และวิธีปฏิบัติต่อไต้หวัน
โดยไบเดน ( ซึ่งเคยเจรจากับผู้นำจีนขณะเขารั้งตำแหน่งรองประธานาธิบดีในสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ) ใช้เวลาช่วงสามสัปดาห์แรกในทำเนียบขาวในการต่อสายคุยกับผู้นำชาติอื่นๆในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เขาพยายามส่งสาส์นว่า เขาจะมีการปฏิบัติกับจีนที่แตกต่างจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยกให้ประเด็นการค้าและเศรษฐกิจอยู่เหนือประเด็นอื่นๆ ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ – จีน
ขณะที่ประธานาธิบดีสีกล่าวกับไบเดนว่า การเผชิญหน้ากันระหว่างสองประเทศจะเป็นหายนะสำหรับทั้งสองฝ่าย และควรที่จะหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและการตัดสินที่ผิดพลาด
สียังกล่าวกับไบเดนว่า เขาหวังว่าสหรัฐฯจะรับมือกับประเด็นที่เกี่ยวกับไต้หวัน ฮ่องกง และซินเจียงอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับอธิปไตยและบูรณภาพของอาณาเขตของจีน อ้างอิงจากรายงานข่าวทางสื่อโทรทัศน์ของจีนเมื่อวันที่ 11 ก.พ.
ในการคุยกับนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สุงะของญี่ปุ่นช่วงปลายเดือนม.ค. ไบเดนเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ รับปากจะปกป้องเกาะเซนคาขุ ซึ่งเป็นหมู่เกาะห่างไกลไม่มีคนอาศัยของญี่ปุ่น แต่จีนอ้างกรรมสิทธิ์บนเกาะนี้
ทำเนียบขาวระบุว่า ในการพูดคุยกับนายกฯ นเรนทรา โมดีแห่งอินเดีย ไบเดนเน้นถึงความจำเป็นที่ต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกให้เป็นอิสระและเปิดกว้าง และในการคุยโทรศัพท์กับนายกฯสก็อต มอร์ริสันแห่งออสเตรเลียในสัปดาห์ก่อน ไบเดนย้ำถึงการเป็นพันธมิตรของสองประเทศที่มีความสำคัญกับเสถียรภาพในภูมิภาคนี้
คณะทำงานของไบเดนยังระบุถึงบทสนทนาที่ได้ยินมาจากผู้นำในเอเชีย-แปซิฟิกคนอื่นๆ ทีความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรเปลี่ยนแปลงไปในสมัยทรัมป์ รวมถึงประเด็นการลดกำลังทหารในเกาหลีใต้ และความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
โดยประเทศพันธมิตรในภูมิภาคนี้ต่างย้ำชัดว่าต้องการวิธีปฏิบัติที่เด็ดเดี่ยวและมั่นคงเพื่อให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯก้าวหน้าต่อไป