นศ.เกาหลีใต้ฝึกงานกับญี่ปุ่นมากขึ้น
ในขณะที่ประเด็นเรื่องหญิงบำเรอและประวัติศาสตร์ในอดีตสร้างความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยจากเกาหลีใต้กลับมุ่งเป้าจะเข้าทำงานบริษัทญี่ปุ่นมากขึ้น
สมาพันธ์เศรษฐกิจญี่ปุ่น-เกาหลี เป็นตัวกลางในโครงการสำหรับนักศึกษาฝึกงานมาตั้งแต่ปี 2558 โดยในปีนี้ มีนักเรียนจากประเทศเกาหลีใต้ราว 466 ราย ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฝึกงานในบริษัทญี่ปุ่น ผ่านหน่วยงานในเกาหลีใต้ ถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากปีก่อน
ปัจจุบันนี้ มีนักศึกษาชาวเกาหลีใต้จำนวนมากที่กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทสัญชาติเกาหลีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และมองว่าบริษัทจากญี่ปุ่นนั้นเป็นผู้ว่าจ้างที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่า
ในวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมาพันธ์ฯ ได้จัดตั้งการบรรยายสรุปในกรุงโซล มีนักศึกษา 52 รายจากทั้งหมด 466 รายที่ผ่านการคัดเลือกและสัมภาษณ์แนะนำตัวในภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว
นักศึกษาหญิงที่ได้ฝึกงานในยูนิตของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ ระบุว่า การได้เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินถือเป็นความฝันหนึ่งของเธอ และเธอต้องการจะเรียนรู้เกี่ยวกับงานบริการของญี่ปุ่น ด้านนักศึกษาชายที่ได้เข้าฝึกงานในบริษัทฮิตาชิ ระบุว่า เขาตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันพนักงานขายของบริษัท
โดยจะมีการประเมินผลการฝึกงานใน เดือน ก.ค. ส.ค. และ ก.ย. เหล่านักศึกษาฝึกงานจะได้ทำงานในบริษัทย่อยของญี่ปุ่น 26 บริษัทในเกาหลีใต้ ได้แก่ โตโยต้า มอเตอร์ มิตสึบิชิ คอร์ป มิตสึอิ แอนด์ โค ฟูจิ ซีร็อกซ์ และ โทเร อินดัสทรีส์
ในขณะที่โครงการฝึกงานจะได้รับช่วยเหลือเพื่อค้นหาแหล่งฝึกงานในเกาหลีใต้ ทางด้านสมาพันธ์ได้เน้นย้ำว่าจะช่วยเหลือนักศึกษาแค่เพียงให้โอกาสได้เรียนรู้ในบริษัทต่าง ๆ เท่านั้น ส่วนทางผู้เข้าร่วมโครงการบางรายอาจได้รับการเชิญชวนเข้าทำงานเต็มเวลากับบริษัทญี่ปุ่นในภายหลัง
ในอดีต บริษัทญี่ปุ่นมักจะไม่เป็นที่นิยมของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ นักเรียนหัวกะทิที่มีความสามารถสูงมักจะเข้าสมัครทำงานกับบริษัทของเกาหลีใต้เอง อย่าง ซัมซุง และฮุนได บริษัททางการเงิน หรือบริษัทของตะวันตก แต่สำหรับบริษัทในญี่ปุ่นนั้นถือว่าไม่ได้รับความนิยมมากนัก
แต่ปัจจุบันความคิดเหล่านี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์มองเห็นว่าความนิยมของบริษัทในเกาหลีใต้ลดน้อยลง เยาวชนชาวเกาหลีใต้กังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอนาคตของพวกเขา ซึ่งถือว่าเติบโตขึ้นเพียง 2% เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน
นอกจากนี้ ชาวเกาหลีใต้ปัจจุบันส่วนมากยังเติบโตขึ้นมาพร้อมกับการ์ตูนทั้งมังงะและอนิเมะจากญี่ปุ่น การที่พวกเขาใกล้ชิดกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากขึ้น อาจทำให้เยาวชนเกาหลีใต้มีมุมมองที่เปิดกว้างกับการเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่นมากขึ้น
ความแตกต่างทางด้านการเมืองยังถือว่าเป็นเรื่องรองจากเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม
อย่างน้อยจำนวนผู้สมัครก็ถือว่าเติบโตขึ้น ทางสมาพันธ์ระบุว่ามีผู้ผ่านเข้าฝึกงาน 162 ราย และ 179 ราย ในปี 2558
ไทโซ ชิงิระ อดีตประธานบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ โคเรีย และเป็นประธานของสมาพันธ์ที่เข้ามาดูแลโครงการฝึกงานระบุว่า เขาหวังว่านักศึกษาฝึกงานชาวเกาหลีใต้จะเห็นคุณค่าในวัฒนธรรมการทำงานของญี่ปุ่น ซึ่งมุ่งเน้นในการทำงานเป็นทีมและให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลที่มีทัศนะก้าวไกล.