กว่าครึ่งในนิวเดลีติดเชื้อโควิด-19
กว่าครึ่งของจำนวนประชากร 20 ล้านคนในกรุงนิวเดลีอาจติดเชื้อโควิด-19 อ้างอิงจากผลสำรวจการตรวจสารภูมิคุ้มกันด้านการติดเชื้อของรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของภาคเอกชนก่อนหน้านี้
อินเดียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 ถึง 10.8 ล้านราย สูงที่สุดรองจากสหรัฐฯ แต่ผลการสำรวจที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งอ้างอิงจาก 28,000 ตัวอย่าง ชี้ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงของอินเดียที่มีประชากรทั้งประเทศถึง 1,350 ล้านคนอาจสูงกว่านี้มาก และสูงถึงระดับที่มีภูมิคุ้มกันหมู่
“ในการสำรวจทางเซรุ่มวิทยาครั้งที่ 5 ที่จัดทำในกรุงนิวเดลี ตรวจพบภูมิคุ้มกันของไวรัสโคโรนาถึง 56.13% จากจำนวนประชากรทั้งหมดของเมือง” สัตเยนดาร์ จาอิน รมว.สาธารณสุขนิวเดลีโพสต์บนทวิตเตอร์หลังมีการตีพิมพ์รายงาน
ผลการตรวจหาเชื้อไวรัสแยกให้กับประชาชนกว่า 700,000 คนทั่วอินเดียจากบริษัท Thyrocare Technologies แสดงว่า 55% ของประชากรอาจติดเชื้อแล้ว
องค์การอนามัยโลกระบว่า มีอย่างน้อย 60% – 70% ของประชากรที่จำเป็นต้องมีภูมิคุ้มกันเพื่อหยุดวงจรการแพร่เชื้อ แต่ทางการอินเดียระบุว่า ระดับที่ต่ำกว่าสามารถชะลอการระบาดของไวรัสได้เช่นกัน
จาอินระบุว่า กรุงนิวเดลีเอาชนะโควิด-19 ได้แล้ว และยอดผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือนในรายงานของวันที่ 2 ก.พ.
ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากโควิด-19 อยู่ที่ 154,486 ราย ทำให้ประเทศมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระบุว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัตราการเสียชีวิตในอินเดียต่ำคือ อายุเฉลี่ยของประชากรในประเทศที่มีอายุน้อย โดยสองรัฐที่ร่ำรวยและมีประชากรสูงวัยกว่าคือรัฐเกรละ มีผู้ติดเชื้อ 3,456 รายและรัฐมหาราษฎระมีผู้ติดเชื้อ 1,948 ราย คิดเป็นเกือบ 70% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่
อินเดียฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไปแล้วเกือบ 4 ล้านคนตั้งแต่กลางเดือนม.ค. ที่รัฐบาลอินเดียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในโลก โดยตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้กว่า 300 ล้านคนภายในเดือนส.ค.นี้