“เพื่อไทย” กระทุ้งปม “ราคาข้าว” ขย่มรัฐบาล
กลายเป็นปมร้อนทางเศรษฐกิจระรอกใหญ่ และเป็นประเด็นการเมืองรอบใหม่ที่ทำให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ต้องปวดขมับไม่น้อย
ดูเหมือนว่าปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยเฉพาะ “ข้าวหอมมะลิ” ที่ไม่เคยเกิดปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน ที่รัฐบาลต้องเร่งสกัดปัญหาก่อนที่จะกลายเป็นไฟลามทุ่ง
“ข้าวหอมมะลิ”ทุบสถิติราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดินในรอบ 10 ปี แม้ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะออกมาตรการ “ห้ามเลือด”ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ผ่านโครงการ “จำนำยุ้งฉาง” หรือ โครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการระบายข้าวเปลือกหอมมะลินาปี ประจำปีการผลิต 2559/2560
โดยมีหลักเกณฑ์ ช่วยชาวนาที่มียุ้งฉางจะได้รับเงินช่วยเหลือ 13,000 บาทต่อตัน แบ่งเป็นค่าจำนำข้าวตันละ 9,500 บาท เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพตันละ 2,000 บาท และเงินค่าขึ้นยุ้งฉางและเก็บรักษาตันละ 1,500 บาท ซึ่งแม้ว่าการ “ทุบกระปุก”ครั้งนี้จะช่วยแก้ปัญหา แต่ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันได้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ขณะที่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ แต่ไม่มี “ยุ้งฉาง”รัฐบาลจะช่วยเหลือ แค่ค่าเก็บเกี่ยวและค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวตันละ 2,000บาท แต่จะไม่ให้ค่าขึ้นยุ้งฉาง 1,500 บาท
คู่ขนานไปกับการให้ผู้ว่าฯเป็นคนกลางจับเข่าเจรจากับ “โรงสี-ชาวนา”ไม่ให้กดดันราคาข้าว โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯทุกจังหวัด ยกเว้น 14 จังหวัดภาคใต้ สกัดม็อบชาวนาตั้งแต่ต้นลม โดยให้ใช้ศาสตร์และศิลป์ในการเจรจาทำความเข้าใจไม่ให้มีการปลุกม็อบเคลื่อนไหว
รวมถึงการให้กองทัพรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง การเปิดค่ายทหารและหน่วยงานราชการให้ชาวนามาขายข้าวโดย ถือเป็นการวางแผนมาตรการระยะสั้นและระยะยาว ที่แฝงไปด้วยการบั่นคะแนนนิยมของรัฐบาลไปในตัว
“บิ๊กตู่”รู้ดีว่าสถานการณ์ข้าวจะวิกฤติแสนสาหัสและส่งผลกระทบกับกระดูกสันหลังของชาติซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือและภาคอีสาน3.7 ล้านครัวเรือน รวมถึงจะมีผลผลิต “ข้าวลอตใหญ่”ออกมาในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.อีกไม่ต่ำกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์
อีกด้าน “อดีตนายกฯปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แก้เกมชิงหวะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ จัดหนัก จัดเต็มงัดช็อตเด็ด ซีนดราม่าทุกรูปแบบ ทั้งฉากให้กำลังใจปลอบขวัญชาวนาให้ต่อสู้วิกฤติราคาข้าว ฉากดราม่าซับน้ำตากระดูกสันหลังของประเทศ ไหนจะควักกระเป๋าซื้อข้าวสารและข้าวเปลือกจากชาวนาโดยตรง
แต่ซีนที่ทำเอา “อดีตนายกฯ” น้ำตาร่วง หลังชาวนาร่วมลงขันสมทบทุนให้นำเงินไปจ่ายค่าเสียหายรัฐบาลจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาทในโครงการจำนำข้าว ก่อนจะตอบคำถามชาวนา จ.ศรีสะเกษ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้า ว่า “ไม่รู้จะชดใช้ยังไงหมด เพราะเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก”
“ยืนยันว่า ชาวนาลำบากจริงๆจากราคาข้าวที่ตกต่ำ และดิฉันเองเป็นนายกฯที่มาจากประชาชนรู้ซึ้งถึงบุญคุณประชาชน แม้ว่าวันนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เห็นใจและช่วงพี่น้องชาวนาที่ลำบากเดือดร้อน ไม่ได้มุ่งหวังเรื่องการเมืองแต่อย่างใด”
เรียกได้ว่าการลงพื้นที่เยี่ยมชาวนาที่นำข้าวมาขายริมถนนครั้งนี้กระชากเรตติ้งแบบทันควัน หนำซ้ำยัง จัดเต็มควงลูกพรรคเพื่อไทย ขนข้าวที่ได้รับซื้อจากชาวนาในพื้นที่ภาคอีสาน ไปขายที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท
งานนี้ “ลีลา” ของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ และขุนพลเพื่อไทย กระชากปัญหาเศรษฐกิจไปเป็นประเด็นทางการเมืองจนได้ ทำเอาบิ๊กในรัฐบาลออกมาแถลงออกแนวประชดประชัน
อย่าง “บิ๊กตู่” เองก็ออกมาพูดการโต๊ะซื้อข้าวของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ว่า “ทำได้ แต่อย่าสร้างภาพ ขอให้ช่วยซื้อจริงๆ ไม่ใช่พอนักการเมืองไปแล้ว ประชาชนจะมาซื้อ คนขายก็ขนของหนีไปหมดแล้ว”
หรือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ท้าทายให้ “อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์” รับซื้อข้าวจากชาวนาทั้งประเทศ และยังระบุอีกว่า “ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ แต่เชื่อว่าไม่ได้เป็นการตัดหน้ารัฐบาล เพราะรัฐบาลทำทั้งประเทศ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำแค่ส่วนหนึ่งเอามาเปรียบกันได้อย่างไร”